ปัญหาการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของครูกลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดหนองบัวลำภู
คำสำคัญ:
สภาพปัญหา, การใช้หลักสูตร, กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพและปัญหาการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 2) เปรียบเทียบปัญหาการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของครูผู้สอน กลุ่มสาระสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดหนองบัวลำภู 3) ศึกษาแนวทางการแก้ปัญหา การใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูในกลุ่มสาระสังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน 92 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติการทดสอบค่าที (t-test) แบบ Independent ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน และปัญหาการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยรวมอยู่ในระดับน้อยทุกด้าน 2) ครูผู้สอนที่อยู่ ในโรงเรียนขนาดกลางและโรงเรียนขนาดเล็กมีปัญหาด้านการใช้สื่อตามหลักสูตรโดยรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายคู่พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนครูที่มีเพศ ระดับการศึกษา ขนาดโรงเรียน สาขาที่จบการศึกษา และประสบการณ์ทำงาน ต่างกันมีสภาพและปัญหาไม่แตกต่างกัน 3) แนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้หลักสูตร ได้แก่ 3.1) ด้านบริหารจัดการหลักสูตร ควรมีการจัดอบรมการใช้หลักสูตร และจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับบริบทสังคม 3.2) ด้านการจัดการเรียนรู้ ควรจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับหลักสูตรและบริบทของนักเรียนในโรงเรียน 3.3) ด้านการใช้สื่อ ควรเพิ่มและพัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้ทันสมัยเหมาะสมกับการเรียนการสอนในปัจจุบัน 3.4) ด้านการวัดและประเมินผล ครูควรวัดผลประเมินผลนักเรียนเป็นรายบุคคลและควรประเมินตามสภาพจริง
เอกสารอ้างอิง
ฆนัท ธาตุทอง. (2550). เทคนิคการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา. นครปฐม: เพชรเกษมการพิมพ์.
จิตติมา เขื่อนคำ. (2550). สภาพปัญหาการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 3
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชัยภูมิ เขต 3 จังหวัดชัยภูมิ. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ชรินรัตน์ สีเสมอ. (2554). สภาพและปัญหาการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในโรงเรียน
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ธัญญ์นภัส วิรัตน์เกษม. (2554). ปัญหาการใช้หลักสูตรสถานศึกปัญหาการใช้หลักสูตสถานศึกษาตามทรรศนะของครูโรงเรียนนำร่องในสังกัดเทศบาลเมืองชลบุรี อำเภอชลบุรีจังหวัดชลบุรี. วารสารวิชาการศรีปทุม ชลบุรี, 11(1), 119-126.
ธีวรา มากสาขา. (2550). ปัญหาการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 ของครูสถานศึกษาเอกชนในเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 1. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. สงขลา: มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
พิชชาพร พุ่มมาก. (2559). ปัญหาการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของครูผู้สอนพลศึกษา
ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 5. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาพลศึกษา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
รัชริน พุ่มพวง. (2550). สภาพและปัญหาการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544 ของครูผู้สอนกลุ่มสาระ
การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอ่างทอง. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์.
สิริวรรณ ศรีพหล. (2553). การพัฒนาชุดฝึกอบรมทางไกลสำหรับครูสังคมศึกษาเรื่องการจัดการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ในสถานศึกษา. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
เสาวลักษณ์ ประมาน. (2555). ปัญหาการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของครูผู้สอน
วิชาพลศึกษา ระดับประถมศึกษา โรงเรียนต้นแบบในเขตภาคกลาง. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว