การใช้โปรแกรมแบบสถานี โปรแกรมการละเล่นพื้นบ้าน และโปรแกรมผสมแบบสถานีกับ การละเล่นพื้นบ้านที่มีต่อสมรรถภาพทางกายของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
คำสำคัญ:
โปรแกรมแบบสถานี, โปรแกรมการละเล่นพื้นบ้าน, สมรรถภาพทางกายบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เปรียบเทียบสมรรถภาพทางกายภายในกลุ่มระหว่างก่อนการฝึกหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 และหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 8 ของกลุ่มที่ฝึกด้วยโปรแกรมแบบสถานีโปรแกรมการละเล่นพื้นบ้าน และโปรแกรมผสมแบบสถานีกับการละเล่นพื้นบ้าน และ (2) เปรียบเทียบสมรรถภาพทางกายระหว่างกลุ่มที่ฝึกด้วยโปรแกรมแบบสถานีโปรแกรมการละเล่นพื้นบ้านและโปรแกรมผสมแบบสถานีกับการละเล่นพื้นบ้านก่อนการฝึกหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 และหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 8
กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อายุ 6–7 ปี จํานวน 48 คน แบ่งนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 16 คน โดยการเลือกสุ่มแบบกลุ่มมา 1 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่โปรแกรมแบบสถานีโปรแกรมการละเล่นพื้นบ้านและโปรแกรมผสมรวมถึงแบบทดสอบสมรรถภาพทางกาย จํานวน 5 รายการ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย(Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation), Friedman test และ Non parametric Kruskal–wallis One–way ANOVA with Repeated Measure
ผลการวิจัยพบว่าสมรรถภาพทางกายภายในกลุ่มและระหว่างกลุ่มของทั้ง 3 กลุ่มแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยโปรแกรมแบบสถานีมีการพัฒนาด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อท้องเพิ่มขึ้นโปรแกรมการละเล่นพื้นบ้านมีการพัฒนาด้านความเร็วที่ดีขึ้นและโปรแกรมผสมแบบสถานีกับการละเล่นพื้นบ้านมีการพัฒนาด้านความคล่องแคล่วว่องไวและความอ่อนตัวที่ดี ขึ้นและยังพบว่าโปรแกรมผสมแบบสถานีกับการละเล่นพื้นบ้านทําให้สมรรถภาพทางกายด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อท้องและความเร็วมีความแตกต่างกันระหว่างหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 และ 8 ดีกว่าโปรแกรมแบบสถานีและโปรแกรมการละเล่นพื้นบ้าน
ผลการวิจัยพบว่าโปรแกรมผสมแบบสถานีกับ การละเล่นพื้นบ้านสามารถพัฒนาสมรรถภาพทางกายด้าน พลังกล้ามเนื้อขา ความคล่องแคล่วว่องไว ความอ่อนตัว ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อท้อง ความเร็วได้ดีกว่าโปรแกรมแบบสถานีและโปรแกรมการละเล่นพื้นบ้าน
เอกสารอ้างอิง
ชูศักดิ์ เวชแพทย์ และกันยา ปาละวิวัชน์. (2536). สรีรวิทยาการออกกําลังกาย. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช.
ธงชัย เจริญทรัพย์มณี. (2542). ลีลาศ. กรุงเทพฯ : สุวีริยสาส์น.
ธาวุฒิ ปลื้มสําราญ. (2542). หลักวิทยาศาสตร์การฝึกกีฬา. กรุงเทพฯ : สารศึกษาการพิมพ์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2546). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : สุริยสาสน์.
พิชิต ภูติจันทร์. (2547). วิทยาศาสตร์การกีฬา. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์.
วรศักดิ์ เพียรชอบ. (2548). หลักและวิธกีารสอนพลศึกษา. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช.
วัฒนพงศ์ อ่อนนุ่ม. (2554). ผลการฝึกการละเล่นพื้นเมืองของไทยที่มีต่อสมรรถภาพทางกลไกของนักเรียนชายชั้น ประถมศึกษาปที่ 4–6. วิทยานิพนธ์ วท.ม. (วิทยาศาสตร์การกีฬา). กรุงเทพฯ : บัณทิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ.
อัมพร บําเพ็ญ. (2550). ผลการจัดกิจกรรมการเล่นเกมและกีฬาพื้นเมืองไทยที่มีต่อสมรรถภาพทางกายที่สัมพันธ์กับ สุขภาพและความพึงพอใจของนักเรียนประถมศึกษา ช่วงชั้นที่ 2. วิทยานิพนธ์ วท.ม. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัย ราชภัฎจันทรเกษม.
อาชวิทธิ์ เจิงกลิ่นจันทร์. (2552). ผลของโปรแกรมการฝึกความคล่องแคล่วว้องไวแบบผสมผสานการเล่นพื้นเมืองไทยที่มี ต่อการพัฒนาความคล่องแคล่วว่องไวของนักกีฬาฟุตบอลอายุระหว่าง 10–12 ปี. ปริญญานิพนธ์. วท.ม. (วิทยาศาสตร์การกีฬา). กรุงเทพฯ : บัณฑิตมหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว