การพัฒนาการเรียนการสอนการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ โดยใช้เทคนิค KWL Plus สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
คำสำคัญ:
การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ, แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์, การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค KWL Plusบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้เทคนิค KWL Plus
สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผล 3) เพื่อเปรียบเทียบ
การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) เพื่อเปรียบเทียบแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของนักเรียนก่อนเรียน
และหลังเรียน กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนลุ่มระวีวิทยา จังหวัดสุรินทร์ จานวน 11 คน ได้มาโดยการ
เลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้เทคนิค KWL Plus
2) แบบทดสอบวัดการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ 3) แบบสอบถามวัดแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ทางการเรียน สถิติที่ใช้ คือ
ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐานด้วยสถิติทดสอบวิลคอกซัน (The Wilcoxon Matched Pairs
Singed-Ranks Test)
ผลการวิจัยพบว่า 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค KWL Plus สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.29/78.48 2) ค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชา
ภาษาอังกฤษ โดยใช้เทคนิค KWL Plus มีค่าเท่ากับ 0.6263 3) นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค
KWL Plus มีคะแนนในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05
และ 4) นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิค KWL Plus มีคะแนนแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ทางการเรียน
ภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05
เอกสารอ้างอิง
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 วิชาภาษาอังกฤษ ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด โดยใช้สมองเป็นฐาน
และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ KWL - Plus . มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
จรัสศรี พาเทพ. (2558). การเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจและเจตคติต่อการเรียน
ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 4 ระหว่างการเรียนรู้ด้วยเทคนิค TBL และเทคนิค KWL-Plus.
มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
จันทรชาติ สมจิตร. (2557). การศึกษาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยการสอนแบบเอ็มไอเอ (MIA)
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
จิตตภัสร์ ทับสิงห์. (2554). ผลการจัดการเรียนรู้โดยกลวิธี KWL- Plus และวิธี MIA ที่มีผลต่อความสามารถทางการอ่าน
ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. จันทบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏราไพพรรณี.
จิตรลดา คนยืน. (2550). การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ที่เรียนโดยใช้กลวิธีสอนแบบ KWL- Plus. อุดรธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
ทัศพร เกตุหอม. (2547). บทความวิชาการการอ่านแบบปฏิสัมพันธ์ด้วยวิธี KWL-Plus. วารสารเทคโนโลยีธนบุรี, 27-32.
ธิดา ทิพย์สุข. (2552). การพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่จัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค CIRC. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
นฤมล งอยผาลา. (2554). การเปรียบเทียบการอ่านจับใจความ การคิดวิเคราะห์และความรับผิดชอบต่อการเรียนของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างการจัดการเรียนรู้แบบ KWL- Plus และการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
(PBL). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ผจงกาญจน์ ภู่วิภาดาวรรธน์. (2540). เทคนิคการสอนอ่านภาษาอังกฤษระดับชั้นมัธยมศึกษา. เชียงใหม่: หาวิทยาลัยเชียงใหม่.
พรสรรค์ สีป้อ. (2550). สุดยอดวิธีการสอนภาษาอังกฤษนาไปสู่...การจัดการเรียนรู้ของครูยุคใหม่. กรุงเทพฯ: อักษรเจริญทัศน์.
เรวดี หิรัญ. (2539). สอนอย่างไรเด็กจึงจะอ่านภาษาอังกฤษให้เข้าใจในแนวคิดและเทคนิควิธีการสอนอ่านภาษาอังกฤษ
ระดับมัธยมศึกษา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สถาบันภาษาอังกฤษ กระทรวงศึกษาธิการ. (2558). คู่มือการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแนวใหม่ ตามกรอบมาตรฐาน
ความสามารถทางภาษาอังกฤษที่เป็นสากล. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
สุภัทรา อักษรานุเคราห์. (2532). การสอนทักษะทางภาษาและวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุภาณี โสโท. (2554). การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังฤษ การคิดวิเคราะห์ และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ KWL- Plus
กับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ SQ4R. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สมนึก ภัททิยธนี. (2553). การวัดผลการศึกษา. กาฬสินธุ์: ประสานการพิมพ์.
สมบัติ ท้ายเรือคา. (2551). ระเบียบวิธีการวิจัยสาหรับมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. กาฬสินธุ์: ประสานการพิมพ์.
สมศักดิ์ ภู่วิภาดาวรรธน์. (2544). การยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและการประเมินตามสภาพจริง. เชียงใหม่: The Knowledge Center.
สานักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1. (2558). ผลการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติ ปีการศึกษา 2558.
สุรินทร์: โรงพิมพ์พันธุ์เพ็ญ.
อรุณี วิริยะจิตรา. (2555). เหลียวหลังแลหน้า : การสอนภาษาอังกฤษ. กรุงเทพฯ: หน้าต่างสู่โลกกว้าง.
อ้อมจิตร เหล่าทองสาร. (2556). การเปรียบเทียบการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ
และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 ระหว่างการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด
อภิปัญญาและการจัดการเรียนรู้แบบ SQ4R. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว