กรอบความคิดของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือประจำปีการศึกษา 2558

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับกรอบความคิดของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือประจําปีการศึกษา 2558 และ2) เปรียบเทียบระดับกรอบความคิดของนักศึกษาจําแนกตามเพศคณะที่กําลังศึกษาอาชีพหลักของครอบครัวและรายได้ต่อปีของครอบครัวกลุ่มตัวอย่างที่ใช้คือนักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือประจําปีการศึกษา 2558    จํานวน 364 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นจําแนกตามคณะขนาดของกลุ่มตัวอย่างได้มาโดยใช้ตารางกําหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างของ Krejcie and Morgan เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือแบบสอบถามมีค่าความตรงเชิงเนื้อหาโดยมีค่า IOC ตั้งแต่ 0.66 - 1.00 และมีค่าความเชื่อมั่นโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาของคอนบาค เท่ากับ 0.86 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์วิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการทดสอบค่า t (t-test แบบ independent sample) และ F-test (Oneway ANOVA) เมื่อพบความแตกต่างทําการเปรียบเทียบรายคู่โดยใช้วิธีการของ Scheffe ผลการวิจัยพบว่า 1. กรอบความคิดของนักศึกษาโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านทั้ง 5 ด้าน พบว่าด้านคําวิจารณ์อยู่ในระดับดี ส่วนด้านความพยายามด้านอุปสรรค ด้านความท้าท้าย และด้านความสําเร็จของ ผู้อื่นอยู่ในระดับปานกลางผู้อื่นอยู่ในระดับปานกลาง 2.เปรียบเทียบระดับกรอบความคิดของนักศึกษาเปรียบเทียบระดับกรอบความคิดของนักศึกษา จําแนกตามเพศ คณะที่กําลังศึกษา อาชีพหลักของครอบครัวจําแนกตามเพศ คณะที่กําลังศึกษาอาชีพหลักของครอบครัว และรายได้ทางครอบครัวพบว่า 2.1 นักศึกษาเพศชายและเพศหญิงมีกรอบ นักศึกษาเพศชายและเพศหญิงมีกรอบ ความคิดโดยภาพรวมไม่แตกต้างกัน ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง ความคิดโดยภพรวมไม่แตกต้างกัน ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง 2.2นักศึกษาที่กําลังศึกษาในคณะที่แตกต่าง นักศึกษาที่กําลังศึกษาในคณะที่แตกต่างกันมีกรอบความคิดแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 โดยนักศึกษาคณะครุศาสตร์และคณะโดยนักศึกษาคณะครุศาสตร์และคณะพยาบาลศาสตร์มีกรอบความคิดอยู่ในระดับดีส่วนคณะอื่นๆอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเปรียบเทียบรายคู่โดยใช้วิธีการของ Scheffe พบว่าระดับกรอบความคิดของนักศึกษาคณะครุศาสตร์สูงกว่าคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ และบัญชี คณะนิติศาสตร์ และคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ระดับกรอบความคิดของนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์สูงกว่าคณะเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2.3 นักศึกษาที่มาจากครอบครัวที่มีอาชีพ หลักแตกต่างกันมีระดับกรอบความคิดไม่แตกต่างกัน 2.4 นักศึกษาที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้นักศึกษาที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้นักศึกษาที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้ต่อปีแตกต่างกันมีระดับกรอบความคิดไม่แตกต่างกัน