แบบการเรียนรู้ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
คำสำคัญ:
แบบการเรียนรู้, รูปแบบการเรียนการสอน, ทฤษฎีการเรียนรู้บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาแบบการเรียนรู้ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด 2) ศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างแบบการเรียนรู้ของนักศึกษา และรูปแบบการเรียนการสอนของอาจารย์ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักศึกษา จำนวน 736 คน และคณาจารย์จำนวน 74 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสำรวจแบบการเรียนรู้ของนักศึกษา และแบบสำรวจรูปแบบการเรียนการสอนของอาจารย์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติทดสอบ (Chi–Square) ผลการวิจัยพบว่า 1) นักศึกษามีแบบการเรียนรู้ในทฤษฎีการเรียนรู้ กลุ่มสร้างสรรค์ความรู้นิยมมากที่สุด ร้อยละ 21.98 รองลงมา คือ กลุ่มปัญญานิยม ร้อยละ 18.27 และกลุ่มพฤติกรรมนิยม ร้อยละ 18.02 ตามลำดับ นอกจากนี้นักศึกษามีแบบการเรียนรู้ แบบเดียวมากที่สุด ร้อยละ 71.73 มีการเรียนรู้แบบผสมผสานสองรูปแบบ ร้อยละ 17.90 และผสมผสานแบบสามรูปแบบ ร้อยละ 5.68 ตามลำดับ 2) แบบการเรียนรู้ระหว่างนักศึกษา และรูปแบบการเรียนการสอนของอาจารย์ มีความสัมพันธ์กัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยมีขนาดความสัมพันธ์เท่ากับ .193 เมื่อจำแนกตามคณะพบว่า มีเพียงคณะครุศาสตร์เพียงคณะเดียว ที่แบบการเรียนรู้ระหว่างนักศึกษาและรูปแบบการเรียนการสอนของอาจารย์ มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยมีขนาดความสัมพันธ์เท่ากับ .24 ส่วนคณะหรือภาควิชาอื่น ๆ กลับไม่มีความสัมพันธ์กัน
เอกสารอ้างอิง
ธัญมาส รวยรื่น. (2556). แบบการเรียนรู้ของบัณฑิตเกียรตินิยมหลักสูตรครู 5 ปี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
วิจารณ์ พานิช. (2556). ครูเพื่อศิษย์ สนุกกับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. สานปฏิรูป ฉบับพิเศษลำดับที่ 4. มูลนิธิสดศรีสฤษดิ์วงศ์. กรุงเทพมหานคร.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การ รับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
องอาจ นัยพัฒน์. (2551). การออกแบบการวิจัย: วิธีการเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพและผสมผสานวิธี. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Currie, G. (1995). Learning Theory and the Design of Training in a Health Authority. Journal of Health Manpower Management, 21(2),13-19.
Joyce, B. & Weil, M. (2010). Models of Teaching. United States of America, Prenice Hall International.
Kolb, D. (1984). Experiential Learning: Experience as the Source of Learning and Development. Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.
Krejcie,V.R. & Morgan,W.E. (1970). Sample size for Research Activities. Journal of Educational and Psychological Measurement, (30), 607-610.
Lowe, D. & Skitmore, M. (1994). Experiential Learning in Cost Estimating. Journal of Construction Management and Economics, 12, 423-431.
Robotham, (1995). Self-directed learning: the ultimate learning style. Journal of European Industrial Training, 19 (7), 3-7.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว