The Development of 5E Inquiry Based Learning Activities with Science Games to Enhance Science Process Skills of The 4th Grade Students
Keywords:
Inquiry 5 Steps learning activities, Science games, Science process skillsAbstract
This research aimed to develop of 5E inquiry-based learning activities with science games
and to enhance science process skills of the 4th grade students in elementary school to improve their
science process skills according to the 75/75 criterion, to compare students' science process skills with
the 75 percent criterion, and to compare student achievement after studying with the 75 percent criterion.
Samples were the 4th grade students from BanKrajai school, Krajai sub-district, Pa Tio district, Yasothon province, in the second semester of 2022 academic year total 1 class with 14 students. Samples derived from cluster random sampling. Research tools included 5E inquiry-based learning management plans integrated with a science game, a science process skill test, and an achievement test. Statistics used for data analysis included percentage, average, standard deviation, and One Sample t–test. The results showed as follows:
1) According to 5E inquiry-based learning activities with science games of grade 4 students had an efficiency of 79.56/82.73, higher than the criterion of 75/75. 2) Students who received 5E inquiry-based learning activities with science games had scientific process skills after studying higher than 75 percent criterion with statistical significance at the .05 level. 3) Students who received 5E inquiry-based learning activities with science games had student achievement after studying higher than 75 percent criterion with statistical significance at the .05 level.
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551.
กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
ช่อผกา สุขุมทอง. (2563). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับเกมวิทยาศาสตร์ เรื่อง
การเปลี่ยนแปลงของโลกระดับประถมศึกษา. วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตรหาบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์. สงขลา:
มหาวิทยาลัยทักษิณ.
ทิศนา แขมมณี. (2558). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 19). กรุงเทพฯ: จุพาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ณาตยา พาบัว. (2560). ผลการใช้กิจกรรมการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (7E) เรื่อง สารในชีวิตประจำวัน ที่มีต่อ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ และความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มโรงเรียนบึงกอก-หนองกุลาจังหวัดพิษณุโลก. วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต.
สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช.
นลินนิภา ชัยกาศ. (2565). การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นร่วมกับเกมกระดานที่มีต่อ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พลังงานบนโลกของเรา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชา
หลักสูตรและการสอน. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
พิมพันธ์ เดชะคุปต์ และพเยาว์ ยินดีสุข. (2550). กระบวนการออกแบบย้อนกลับการพัฒนาหลักสูตรและออกแบบการสอน
อิงมาตรฐาน. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เพ็ญนิภา ชัยณรงค์ และจิตราภรณ์ วงศ์คำจันทร์. (2565). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น ร่วมกับเกมวิทยาศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาฟิสิกส์ 2 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนโพนทองพัฒนาวิทยา. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการเรียนการสอน. ร้อยเอ็ด: มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด.
ภารดี กล่อมดี. (2561). ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้
ชุดแบบฝึกทักษะร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E). วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต
สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
รุ่งนภา นรมาตย์. (2556). การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์เรื่อง เงิน
โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์
การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
โรงเรียนบ้านกระจาย. (2564). รายงานการประเมินตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ประจำปีการศึกษา 2564 โรงเรียนบ้านกระจาย. ยโสธร: โรงเรียนบ้านกระจาย.
วันทนา งาเนียม. (2564). ผลการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ที่มีต่อทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. นครสวรรค์: มหาวิทยาลัย
ราชภัฏนครสวรรค์.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2564). ผลการทดสอบระดับชาติ Onet ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. สืบค้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2565, จาก http://www.newonetresult.niets.or.th/Individualweb/Mobile/
frmStdGraphScoreMobile.aspx
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2555). ครูวิทยาศาสตร์มืออาชีพ แนวทางสู่การเรียนการสอนที่มีประสิทธิผล.
กรุงเทพฯ: อินเตอร์เอ็ดดูเคชั่นซัพพลายส์.
สุวรรณา จุ้ยทอง. (2558). หลักการจัดการเรียนรู้. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์.
Kittipak, C. and Wittaya, W. (2021). The Development of Scientific Reasoning Ability on Concept of Light
and Image of Grade 9 Students by Using Inquiry-Based Learning 5E with Prediction Observation
and Explanation Strategy. Journal of Education and Learning, 10(5), 728-750.
Li Zhao, Wei He, Xiaohong Liu, Kai-Hsin Tai, Jon-Chao Hong. (2021). Exploring the effects on fifth graders
concept achievement and scientific epistemological beliefs: applying the predictionobservation-
explanation inquiry-based learning model in science education. Journal of Baltic Science Education,
(4), 652-659.
Petros, L., Sylvester, A., Sara de Freitas, Panagiotis, P. and lan Dunwell. (2021). Science teachers’ experiences
of inquirybased learning through a serious game: aphenomenographic perspective. Coventry:
Coventry University.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2024 Roi Et Rajabhat University
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว