The Development of Learning Activity Packages Based on the Inquiry Approach of Mathematics for Secondary 8th Grade Students in Schools Under the Department of Education and Sports, Champasak Province, Lao People’s Democratic Republic
Keywords:
learning activity package, inquiry-based, MathematicsAbstract
This research aimed 1) to develop mathematics learning activity packages with the efficiency criteria of 75/75 and to study the effectiveness index of each mathematics learning activity package, and 2) to study the overall effectiveness index of the mathematics learning activity packages based on the inquiry approach in the title of fractions for mathematics learning strand of 8th grade. Cluster random sampling was employed to select 31 eighth grade students of Bankrang Secondary School in academic year 2018. Research instrument included 7 mathematics learning activity packages based on the inquiry teaching method with the overall of 14 hours for learning activities. Overall suitability of the developed learning activity packages was at the highest level with the average value of 4.52. Another research tool was a multiple choice achievement test with 40 items and 4 choices for each item. The difficulty indices of the test were between .21 - .75 and the discrimination indices ranged between .23 - .58, with the reliability value of .739. The basic statistics for data analysis were mean, standard deviation and percentage. Results found that 1) the efficiency of mathematics learning activity packages based on the inquiry approach for fractional learning was 76.18 / 76.05 which was higher than the criteria 75/75 and 2) the overall effectiveness index of the learning activity packages is 0.5849.
References
การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กระทรวงศึกษาธิการและกีฬา. (2552). หลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. นครหลวงเวียงจันทน์: โรงพิมพ์กระทรวงศึกษา.
เจิมจันทน์ ขวัญแก้ว. (2558). การสร้างกิจกรรมการเรียนรู้แบบผสมผสานระหว่าง 5E และ STAD เรื่องการประยุกต์เกี่ยวกับ
อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เพื่อพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์.
วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนคณิตศาสตร์. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
ทิภาพร บุตรโคตร. (2559). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เพิ่มเติม 2 เรื่อง ภาคตัดกรวยของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้ชุดการสอนที่เน้นการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้. หนองคาย: โรงเรียนปทุมเทพ
วิทยาคาร.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวัดผลการศึกษา (พิมพครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ปาริชาติ เชียงสากุล. (2557). การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหา
ความรู้ (5Es) เป็นฐานในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง การบวก ลบ คูณ และหารเศษส่วนของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนคณิตศาสตร์. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
ปิยนุช นุตตะรังค์. (2557). การสร้างบทเรียนการสอนคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น โดยวิธีสืบเสาะหาความรู้และกิจกรรม
โครงงานคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอน
คณิตศาสตร์. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
สุวิทย์ มูลคำ และอรทัย มูลคำ. (2550). การพัฒนาผลงานทางวิชาการสู่การเลื่อนวิทยฐานะ.กรุงเทพฯ: อี เค บุคส์.
สมนึก ภัททิยธนี. (2551). การวัดผลการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 6). กาฬสินธุ์: ประสานการพิมพ์.
สุกสาคอน สุลิวง, ไพวัน คามพูวง และปริญา ปริพุฒ. (2562). ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน
คณิตศาสตร์ แขวงจำปาสัก ประเทศสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาวในการประชุมวิชาการ
ด้านคณิตศาสตร์ศึกษา ครั้งที่ 5. 26-28 มกราคม 2562. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. อุบลราชธานี:
สมาคมคณิตศาสตร์ศึกษา. 63.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว