The Development of English Learning Using Song Activities with Communicative Language Teaching of 3rd Grade Students
Keywords:
Song activities, , English Vocabulary Learning, English Vocabulary Learning RetentionAbstract
The purposes of this research were 1) to develop the lesson plan for vocabulary learning using song activities with communicative learning teaching with the efficiency at 75/75; 2) to compare the students’ English vocabulary ability before and after using song activities with communicative language teaching; 3) to study the retention of vocabulary learning using song activities with communicative language teaching of 3rd Grade students; and 4) to study the students’ attitude toward teaching English vocabulary using song activities with communicative language teaching of 3rd Grade students. The samples were 3rd Grade students of Dongkleuawittaya School Roi-et Primary Educational Service Area Office 2 in the second semester of academic year 2016. The research instruments were 1) twelve lesson plans for vocabulary learning using song activities with communicative learning teaching 2) an English vocabulary ability test and the retention of vocabulary learning 3) and an attitude questionnaire. The statistics used for data analyses were mean, standard deviation, percentage and t-test for dependent sample. The results of the research were as follows: 1) The efficiency index of the lesson plans for vocabulary learning using song activities with communicative language teaching was 78.64/88.89 which was higher than the standard criteria; 2) The students’ English vocabulary learning after the experiment was significantly higher than that of the pretest at the .05 level; 3) The students’ retention for vocabulary learning ability using song activities with communicative language teaching compare the students’ posttest score and English vocabulary retention test. There was no difference between posttest score and retention of vocabulary learning; and 4) The students’ attitude toward teaching English vocabulary using song activities with communicative language teaching at a good level.
References
กรมวิชาการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
กรมวิชาการ. (2545). การจัดสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2545. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
กระทรวงการต่างประเทศ. (2558). กฎบัตรอาเซียน คำแปล กฎบัตรสมาคมแห่งประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม 2561, จาก https://sites.google.com/site/krusakaydaow/kdbatr-xaseiyn
โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. (2559). สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่ม 39/ โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. กรุงเทพฯ: โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ.
ดวงเดือน แสงชัย. (2530). รายงานการวิจัยเรื่องศึกษาสัมฤทธิ์ผลการเรียนและเจตคติของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเรียนภาษาอังกฤษโดยใช้เพลงเป็นกิจกรรมเสริม. กรุงเทพฯ: โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธีมาพร สลุงสุข. (2555). การเปรียบเทียบความสามารถในการจำคำศัพท์และเจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 4 ที่ได้รับการสอนโดยใช้เพลงประกอบกับเกมประกอบ. วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ. ลพบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี.
นิตยา สุวรรณศรี. (2539). เพลงและเกมประกอบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ. กรุงเทพฯ: คอมแพคท์ปริ้นท์.
ประภาพร นุชอำพันธ์. (2554). การพัฒนาชุดการสอนภาษาอังกฤษ เรื่อง อาหารและสุขภาพ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยพิษณุโลก.
พรรณนที โชติพงศ์. (2552). การใช้กิจกรรมประกอบจังหวะเพื่อพัฒนาความรู้ด้านคำศัพท์และความคงทนในการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
มาริสา กาสุวรรณ์. (2556). ประสิทธิผลของกิจกรรมเพลงภาษาอังกฤษต่อการเรียนรู้และความคงทนของคำศัพท์และความสามารถด้านการพูด. วิทยานิพนธ์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษานานาชาติ. สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
ศุภวัลย์ ชูมี. (2557). ผลการใช้เพลงประกอบการสอนเพื่อพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ และความคงทนในการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านกาแบง จังหวัดสตูล. วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาศึกษาศาสตร์. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ศรีเรือน แก้วกังวาน. (2545). จิตวิทยาพัฒนาการชีวิตทุกช่วงวัย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สิริพัชร์ เจษฎาวิโรจน์. (2550). การสอนระดับประถมศึกษา 2. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
สุมิตรา อังวัฒนกุล. (2540). วิธีการสอนสื่อสารภาษาอังกฤษ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักทดสอบทางการศึกษา. (2559). รายงานผลการประเมินคุณภาพผู้เรียนระดับชาติ ปีการศึกษา 2558 : บทสรุปและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2551). แนวทางการจัดการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
Brown, H. (2001). Teaching by principles: an Interactive Approach to Language pedagogy. New York: Addison Wesley Longman, Inc.
Davies & Pearse. (2000). Success in English Teaching. Hong Kong: Oxford University Press.
deAndres, V. (2002). The influence of affective variable on EFL/ESL learning and teaching. The journal of Imagination in Language Learning and Teaching, 7(3), 92-97.
Mohammad, Alipour & others. (2012). The effects of songs on EFL learners' vocabulary recall and retention: The case of gender. Advances in Digital Multimedia (ADDM), 1(3),2166-2916.
Murphy, T. (1990). The song stuck in my head phenomenon . A melodic din in the LAD?. System, 18(1), 53-64.
Richards, J. (2006). Communicative language teaching today. New York: Cambridge University Press.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว