การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารการศึกษาของโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ
คำสำคัญ:
เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารการศึกษา, เทคโนโลยีสารสนเทศ, การบริหารการศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของบุคลากรต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารการศึกษา ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ ตามความคิดเห็นของบุคลากร จำแนกตามเพศ ตำแหน่ง และประสบการณ์ในการทำงาน บุคลากรของของโรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ ปีการศึกษา 2563 กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 342 คน และได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถาม มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ที่มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.86 สถิติพื้นฐานที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐานได้แก่ t-test และ F-test โดยทำการทดสอบรายคู่ด้วยวิธีการของ Scheffe
ผลการวิจัยพบว่า
- ระดับความคิดเห็นของบุคลากรต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬโดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารการศึกษา อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านการบริหารทั่วไป ด้านงบประมาณ ด้านงานบริหารงานบุคคล ด้านวิชาการ
- ระดับความคิดเห็นของบุคลากรต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ จำแนกตามเพศ โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- ระดับความคิดเห็นของบุคลากรต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ จำแนกตามตำแหน่ง โดยรวมและรายด้านแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ระดับความคิดเห็นของบุคลากรต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ จำแนกตามประสบการณ์ในการทำงาน โดยรวมและรายด้านแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
References
Krejcie & Morgan. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Journal of Education and Psychological Measurement. 13(3): 608.
Matsaeng, H. (2014). Information system administration in basic education institutions under Khon Kaen Primary Educational Service Area Office, Region 4. Khon Kaen : Khon Kaen University.
Ministry of Education. (2019). Driving the 6-region integrated education plan. [Online]. https://www.moe.go.th/moe/th/news/
National Electronics and Computer Technology Center. (2016). 30 Years of NECTEC = 30 NECTEC 3 Decades of Development of Thai Research, Practical Research. Pathum Thani : National Electronics and Computer Technology Center.
Petpraphai, P. (2015) A Study of the Demand for Information Technology of Graduate Students Phranakhon Rajabhat University. Bangkok : Phranakhon Rajabhat University.
Pinyosinwat, P. (2020). Study of Self-Learning Ability in Each Age of Sakaeo Community College Students Through Online Learning In the situation of coronavirus disease 2019. [Online]. https://tdri.or.th/2020/05/examples-of-teaching-and-learning-in-covid-19-pandemic
Raksit, Mandira. (2002). Sustained innovation of a program in educational technology :Promises, Realities, and concerns within a secondary school in Ontario. Master Thesis, M.A. (Education). Canada : Graduate School University Of Toronto.
Ruengurai, D. (2020). The role of executives in the organization's information strategy. [Online] Retrieved from https://www.gotoknow.org/posts/454745.
Srifa, P. (2015). School administration as the base. [Online]. http://portal.in.th/inno-nat/pages/867/.
Srisa-ard, S. (2013). Preliminary research. Bangkok : Suriwiriyasasson.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์เป็นของผู้ประพันธ์บทความ