รูปแบบการจัดการศึกษาระบบทวิศึกษาโดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด
คำสำคัญ:
รูปแบบการจัดการศึกษา, ระบบทวิศึกษา, โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาความต้องการจำเป็นของการจัดการศึกษาระบบทวิศึกษาโดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาระบบทวิศึกษาโดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการศึกษาระบบทวิศึกษาโดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน 4) เพื่อประเมินผลการทดลองใช้รูปแบบ การวิจัยในครั้งนี้เป็นแบบผสานวิธี โดยการศึกษาเอกสาร เก็บข้อมูลแบบสอบถาม จำนวน 136 คน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยสถิติพื้นฐาน ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท
ผลการวิจัยพบว่า 1) ความต้องการจำเป็นของรูปแบบการจัดการศึกษาระบบทวิศึกษา พบว่า มี 3 องค์ประกอบหลัก 13 องค์ประกอบย่อย ดังนี้ (1) การจัดการศึกษาระบบทวิศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ทั้ง 4 ด้าน เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านระบบและกลไก ด้านกระบวนการบริหารจัดการ ด้านการกำหนดผู้เกี่ยวข้อง และน้อยที่สุดคือ ด้านยุทธศาสตร์การดำเนินการ (2) การศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดของการจัดการศึกษาระบบทวิศึกษา พบว่า มี 4 องค์ประกอบหลัก 15 องค์ประกอบย่อย 2) รูปแบบการจัดการศึกษาระบบทวิศึกษา โดยผลสรุปจากคณะผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นตรงกันว่า ควรมีการปรับองค์ประกอบให้เหลือ 3 องค์ประกอบ 13 ตัวชี้วัด 3) การทดลองใช้รูปแบบ พบว่า มีประสิทธิภาพสามารถนำไปใช้กับบริบทชุมชนแวดล้อมในโรงเรียน เนื่องจากการจัดการศึกษารูปแบบทวิศึกษา เป็นมิติใหม่ของการจัดการศึกษา และผู้สำเร็จการศึกษามีโอกาสหางานทำได้มากขึ้น สามารถตอบสนองการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยการมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 4) การประเมินผลการทดลองใช้รูปแบบ พบว่า (1) จำนวนและร้อยละของผู้เข้าร่วมการทดลองเป็นเพศหญิง ร้อยละ 57.50 เพศชาย ร้อยละ 42.50 สถานภาพเป็นครู ร้อยละ 55.00 ผู้บริหาร ร้อยละ 45.00 (2) ผลการประเมินมีความรู้ความเข้าใจ ก่อนเข้าร่วม มีค่าคะแนนเฉลี่ย 3.32 หลังเข้าร่วม มีค่าคะแนนเฉลี่ย 4.07 การนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มีค่าคะแนนเฉลี่ย 4.25 (3) ผู้เข้าร่วมสามารถนำไปประยุกต์ใช้ มีค่าคะแนนเฉลี่ย 4.32
เอกสารอ้างอิง
Anan, D. (2013). Participation in educational management of the Board of Basic Education Institutions of Buriram Primary Education Service Area Office, District 1. Khon Kaen : Mahamakut Wittayalai University.
Bunlangpattama, T. (2008). The role of people in participating in education management. The City Journal, 4(85), 30.
Department of General Education. (2010). National Education Act B.E. 2542 and amendments B.E. 2553 (No. 3). Bangkok : Teachers Council of Thailand Ladprao.
Konnak, S. (2011). Guidelines for promoting community participation in school administration under the Office of Non-Formal and Informal Education, Chainat Province. Nakhon Sawan : Nakhon Sawan Rajabhat University.
Matichon Online. (2017). Educational management in the form of bilingual education. [Onlne]. https://www.matichon.co.th/news/537283. [20 July 2020]
Nuchnueng, N. (2008). Model of participation in school development of the Board of Basic Education Institutions. Phitsanulok : Naresuan University.
Office of Vocational Education Commission. (2015). Guidelines for educational management in conjunction with vocational and upper secondary education courses. Bangkok : S.Sriwilai.
Ponnamin, S. (2015). Pattern of Teacher Participation in Academic Administration of Educational Institutions Under Udon Thani Primary Educational Service Area Office 4. Mahasarakham : Mahasarakham University.
Thidaram, S. (2016). Guidelines for the management of the dual education curriculum of Ban Khok Wittaya School. district office Secondary Education Area 39. Chiang Rai : Chiang Rai Rajabhat University.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์เป็นของผู้ประพันธ์บทความ
