การพัฒนาจิตสำนึกความเป็นพลเมืองตามแนวพระพุทธศาสนาในสังคมไทย

ผู้แต่ง

  • พระปลัดกิตติ ยุตฺติธโร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • พระมหาอิศเรศ ฐิตจิตฺโต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • วรเวช ศิริประเสริฐศรี มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

บทคัดย่อ

          การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาแนวคิดทฤษฎีจิตสำนึกความเป็นพลเมือง ๒) เพื่อศึกษาการพัฒนาจิตสำนึกความเป็นพลเมืองตามแนวพระพุทธศาสนาในสังคมไทย 3) เพื่อสร้างเครือข่ายจิตสำนึกความเป็นพลเมืองตามแนวพระพุทธศาสนาในสังคมไทย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research) ใช้แบบสอบถามและสัมภาษณ์เชิงลึกจากกลุ่มเป้าหมาย เป็นคำถามปลายเปิด (Open-ended questions) สัมภาษณ์นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 200 คน ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการพรรณนาตามหลักอุปนัย

ผลการวิจัย พบว่า จิตสำนึกความเป็นพลเมืองนั้น จะต้องปลูกฝัง 3 ด้าน คือ 1) กฎหมาย คือกฎเกณฑ์ควบคุมความประพฤติของคนในสังคม และเป็นระเบียบแบบแผนหรือกฎเกณฑ์ควบคุมความประพฤติด้านศีลธรรม ขนบธรรมเนียม จารีตประเพณีและกฎหมาย เพื่อให้เป็นพลเมืองที่ดีของสังคม 2) จริยธรรม คือหลักธรรมที่เป็นข้อประพฤติปฏิบัติ เป็นการแสดงออกทางความประพฤติปฏิบัติ ซึ่งสะท้อนคุณธรรมภายในให้เห็นเป็นรูปธรรม และ 3) คุณธรรม คือสภาพคุณงามความดีที่เป็นคุณลักษณะหรือสภาวะภายในจิตใจของมนุษย์ที่เป็นไปในทางถูกต้อง เป็นความดีงามซึ่งเป็นภาวะนามธรรมอยู่ในจิตใจการพัฒนาจิตสำนึกความเป็นพลเมืองตามหลักกฎหมายนั้น ชาวไทยต้องพัฒนาจิตสำนึกด้วยการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ คือ 1) ในมาตรา 70 บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ 2) ในมาตรา 71 บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ รักษาผลประโยชน์ของชาติ และปฏิบัติตามกฎหมาย 3) ในมาตรา 72 บุคคลมีหน้าที่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง กล่าวคือ บุคคลซึ่งไปใช้สิทธิหรือไม่ไปใช้สิทธิโดยไม่แจ้งเหตุอันสมควรที่ทำให้ไม่อาจไปใช้สิทธิได้ ยอมได้รับสิทธิหรือเสียสิทธิตามกฎหมายบัญญัติและการแจ้งเหตุที่ทำให้ไม่อาจไปเลือกตั้งและการอำนวยความสะดวกในการไปเลือกตั้งให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ 4) ในมาตรา 73 บุคคลมีหน้าที่รับราชการทหาร ช่วยเหลือในการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติสาธารณ เสียภาษีอากร ช่วยเหลือราชการ รับการศึกษาอบรม พิทักษ์ ปกป้อง และสืบสารศิลปวัฒนธรรมของชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ และ 5) ในมาตรา 74 บุคคลผู้เป็นข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าที่อื่นของรัฐ มีหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม อำนาจความสะดวกและให้บริการแก่ประชาชนตามหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ซึ่งในการปฏิบัติหน้าที่และในการปฏิบัติการอื่นที่เกี่ยวข้องกับประชาชน การพัฒนาจิตสำนึกความเป็นพลเมืองตามแนวทางพระพุทธศาสนานั้น จะต้องพัฒนาตามหลักพรหมวิหาร 4 ประการ ได้แก่ 1) เมตตา คือความรักใคร่ปรารถนาดีอยากให้เขามีความสุข 2) กรุณา คือความปรารถนาให้เขาพ้นทุกข์ 3) มุทิตา คือความพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี 4) อุเบกขา คือความวางใจเป็นกลาง หลักสาราณียธรรม 6 ประการ ได้แก่ 1) เมตตากายกรรม คือการแสดงไมตรีจิตและความหวังดีต่อทุกคนด้วยการช่วยเหลือเขา 2) เมตตาวจีกรรม คือการกล่าวในเรื่องที่เป็นประโยชน์ แนะนำสั่งสอนและตักเตือนด้วยความหวังดี 3) เมตตามโนกรรม คือการตั้งจิตคิดปรารถนาในสิ่งที่ดีงาม คิดทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้แก่กันและกัน 4) สาธารณโภค คือแบ่งปันสิ่งของทีเป็นวัตถุ หรือการทำประโยชน์ต่อสาธารณะร่วมกัน 5) สีลสามัญญตา คือประพฤติสุจริตดีงาม ไม่ทำตนให้เป็นที่น่ารังเกียจ 6) ทิฎฐิสามัญญตา คือการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นด้วยความเสมอภาพ หลักฆราวาสธรรม ซึ่งเป็นหลักธรรมที่ทำให้มีความร่มเย็นเป็นสุข และมีความรุ่งเรืองมั่นคงในการครองเรือน ฆราวาสธรรม 4 ประการ ได้แก่ 1) สัจจะ คือมีใจสัตย์ซื่อ จริงใจและจงรักภักดีซึ่งกันและกัน 2) ทมะ คือมีความข่มใจ หรือความยับยั้งชังใจในอารมณ์ 3) ขันติ คือมีความอดทนในการประกอบอาชีพ และอดทนต่ออุปสรรค 4) จาคะ คือมีความเอื้อเฟื้อแบ่งปันสิ่งของของตนให้แก่ผู้อื่น และหลักสังคหวัตถุ ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติของคนในสังคม เพื่อยึดเหนี่ยวน้ำใจของกัน และกัน และสังคหวัตถุ 4 ประการ ได้แก่ 1) ทาน การให้ปัน คือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่น 2) ปิยวาจา พูดอย่างรักกัน คือใช้คำสุภาพให้เกียรติผู้อื่น 3) อัตถจริยา ทำประโยชน์แก่เขา คือสละกำลังกายช่วยเหลือผู้อื่น และ 4) สมานัตตตา เอาตัวเข้าเสมอสมาน คือร่วมหมู่ ร่วมมือแก้ไขปัญหา ถ้าปฏิบัติตามหลักธรรม ที่กล่าวมานี้ก็จะสามารถพัฒนาจิตสำนึกความเป็นพลเมืองได้ และการสร้างเครือข่ายจิตสำนึกความเป็นพลเมืองตามแนวพระพุทธศาสนาในสังคมไทยนั้น จะต้องสร้างเครือข่ายในสถาบันการศึกษาเป็นหลัก คือ ในโรงเรียน สถาบันอาชีวะศึกษา และมหาวิทยาลัยต่างๆ ในพื้นที่ภาคเหนือจังหวัดลำปาง ภาคอีสานจังหวัดหนองบัวลำภู ภาคกลางจังหวัดนครปฐม และภาคใต้ปัตตานี โดยนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 4-5-6 ได้พัฒนาจิตสำนึกความเป็นพลเมืองตามแนวพระพุทธศาสนาและหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญในมาตรา 70 มาตรา 71 มาตรา 73 มาตรา 74 และหลักธรรมในพระพุทธศาสนาคือสาราณียธรรม 6 พรหมวิหาร 4 ฆราวาสธรรม 4 และสังคหวัตถุ 4 ในการอบรมเยาวชนให้มีจิตสำนึกความเป็นพลเมือง                 

References

Aobaom, S. (2017). Enhancement of students' mental behavior and good citizenship in a democratic society in Nakhon Pathom Province. Nakhon Pathom: Buddhapanya Sri Thawarawadee Buddhist College,Mahachulalongkornrajavidyalaya University.

Chuathai, S. (2014). Law and life cycle. (2nded). Bangkok: October printing press.

Constitution Drafting Assembly of Thailand. Draft Constitution of the Kingdom of Thailand referendum edition. Bangkok: Territorial Volunteer, Department of Provincial Administration.

Education Council Secretariat. (2016). Research report to produce policy proposals for the development of education to build citizenship. Bangkok: Prik Wan Graphic Co., Ltd.

Khammanee, T. (2003). Moral development Ethics and Values : From Theory to Practice. Bangkok: Sermsin Prepress Sytem Co., Ltd.

Phra Brahmakunaphorn. (2015). Buddhism and the business world. Bangkok: Liberty Press.

Phramaha Prakasit Sirimetho (2017). Creating a network of good citizenship in community development and being Choeng Phutthamonthon in Nakhon Pathom Province. Phra Nakhon Si Ayutthaya: Mahachulalongkornrajavidyalaya University.

Phramaha Sanong Pajjopakari. (2010). Human and society. Bangkok: Chulalongkorn University.

Primate. (1982). Guidance on the practice of 4 virtues and 5 basic values. Bangkok: Department of Religious Affairs.

Society of Social Studies Teachers of Thailand. (1990). Approaches to the development of values and virtues of youth today. Bangkok: PA Living Company Limited.

Sornsakda, S., et al. (2017). Developing the components and characteristics of youth's good citizenship according to the Buddhist teachings of morality in schools. Ubon Ratchathani: Mahachulalongkornrajavidyalaya University Ubon Ratchathani Campus.

Suthisorn, S. (2007). Thai way of life. Bangkok: Academic Promotion Center Press.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2022-04-28

How to Cite

ยุตฺติธโร พ. ., ฐิตจิตฺโต พ., & ศิริประเสริฐศรี ว. . (2022). การพัฒนาจิตสำนึกความเป็นพลเมืองตามแนวพระพุทธศาสนาในสังคมไทย . Journal for Developing the Social and Community, 9(1), 583–602. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/rdirmu/article/view/253402