การวิเคราะห์ต้นทุนการปลูกชาโยเต้ของเกษตรกรในอำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
คำสำคัญ:
ต้นทุน , ชาโยเต้บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปของการปลูกชาโยเต้ของเกษตรกร และเพื่อวิเคราะห์ต้นทุนการปลูกชาโยเต้ของเกษตรกร โดยเก็บข้อมูลจากการใช้แบบสอบถาม และการสัมภาษณ์กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกชาโยเต้อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 37 คน จากการรวบรวมข้อมูล หนังสือ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยนำข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์โดยใช้ค่าเฉลี่ย และร้อยละ พบว่ากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกชาโยเต้ส่วนใหญ่เคยปลูกชาโยเต้มาแล้วมากกว่า 2 ปี ปัญหาและอุปสรรคที่พบ คือ เรื่องโรคและแมลง และต้องการการสนับสนุนส่งเสริมจากรัฐบาลในเรื่องการหาแหล่งความรู้และเทคนิคต่าง ๆ เกี่ยวกับการปลูกชาโยเต้
ในส่วนของต้นทุนการปลูกชาโยเต้นั้น ประกอบด้วยวัตถุดิบ ค่าแรงงาน และค่าใช้จ่ายในการผลิต ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ วัตถุดิบในการปลูกเฉลี่ยต่อไร่มีมูลค่าเท่ากับ 14,187 บาท ค่าแรงงานเฉลี่ยต่อไร่มีมูลค่าเท่ากับ 88,256 บาท และมีค่าใช้จ่ายในการผลิตที่ใช้ในการปลูกชาโยเต้เฉลี่ยต่อไร่เท่ากับ 82,836.82 บาท ซึ่งรวมเป็นต้นทุนในการปลูกชาโยเต้เฉลี่ยต่อไร่มีจำนวนทั้งสิ้น 186,037.49 บาท ส่วนรายได้จากการขายผลผลิตชาโยเต้ในรอบหนึ่งปีเฉลี่ยต่อไร่มีรายได้รวมทั้งสิ้น 396,000 บาท ในด้านของกำไรขั้นต้นมีจำนวนรวมเท่ากับ 209,962.51 บาท กำไรขั้นต้นจากการขายนั้นมีอัตราเท่ากับ 30.46 % ในขณะที่ต้นทุนในการปลูกคิดเป็นอัตรา 46.98 % ซึ่งประกอบด้วยวัตถุดิบ 7.63 % ค่าแรงงาน 47.85 % และค่าใช้จ่ายในการผลิต 44.52 %
References
Department of Agricultural Extension. (2010). Agricultural Statistics of Thailand in 2009. Bangkok: Office of Agricultural Economics, Ministry of Agriculture and Cooperatives.
Techasueb, P. (2014). Cost and return of investment in organic vegetable cultivation project for commercial chives in Lampang Province. Independent Research Master Degree: University of the Nation.
Chunvijitra, W. (2014). Cultivation of winter vegetables: squash, guava and zucchini. Kasetsart news Kasetsart University. 60(2) : 47-58.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2021 วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์เป็นของผู้ประพันธ์บทความ