การประเมินผลสัมฤทธิ์โครงการการจัดการศึกษาตามพระราชดำริและการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำ ปีงบประมาณ 2562
คำสำคัญ:
การประเมิน, ผลสัมฤทธิ์ของโครงการ, การจัดการศึกษาตามพระราชดำริและการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ความสำเร็จของโครงการในด้านต่าง ๆ 3 ด้านด้วยกันคือ
1) ด้านกระบวนการดำเนินการของโครงการ 2) ด้านองค์ความรู้และทักษะที่ผู้รับบริการได้รับและสามารถนำไปใช้ได้ และ 3) ด้านความคุณภาพและพึงพอใจของผู้ร่วมกิจกรรมโครงการ โดยใช้วิธีวิจัยด้วยการใช้รูปแบบการประเมินโครงการแบบ CIPP MODEL ของ สตัฟเฟลบีม (Stufflebeam) เป็นแนวทางในการประเมิน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ประชาชน เยาวชน และผู้ที่สนใจในจังหวัดอุทัยธานีและจังหวัดอื่น ๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมของโครงการ จำนวน 152 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) ค่าความถี่ 2) ค่าร้อยละ 3) ค่าเฉลี่ย และ4) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการ โดยภาพรวม ปรากฏว่า มีผลการสัมฤทธิ์อยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านปรากฏว่า ด้านที่มีผลสัมฤทธิ์สูงสุด ได้แก่ ด้านองค์ความรู้และทักษะที่ผู้รับบริการได้รับและสามารถนำไปใช้ได้ รองลงมาได้แก่ ด้านคุณภาพและความพึงพอใจของผู้ร่วมกิจกรรมโครงการและด้านกระบวนการดำเนินการของโครงการ ตามลำดับ เมื่อ พิจารณาเป็นรายด้าน ปรากฏว่า 1) ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินการของโครงการ ปรากฏว่า มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อปรากฏว่า ข้อที่มีผลสัมฤทธิ์สูงสุด ได้แก่ วัสดุ/อุปกรณ์ได้รับการจัดสรรอย่างเพียงพอและเหมาะสม รองลงมาได้แก่ การสำรวจความต้องการของชุมชน, งบประมาณที่ได้รับจัดสรร, ระเวลาที่ใช้ในการดำเนินโครงการ, การประชาสัมพันธ์โครงการด้วยสื่อต่าง ๆ, โครงการสามารถตอบสนองความต้องการของชุมชนและสังคม, การประสานงานและอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่, สถานที่ที่ใช้ในการดำเนินโครงการ, การประเมินผลงานของผู้เข้าร่วมฝึกอบรมตามโครงการ ตามลำดับ และด้านสถานที่จัดจำหน่ายผลผลิตที่เกิดขึ้นจากการฝึกอบรมตามโครงการ มีผลการประเมินต่ำที่สุด 2) ผลการประเมินด้านองค์ความรู้และทักษะที่ผู้รับบริการได้รับและสามารถนำไปใช้ได้ ปรากฏว่า มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อปรากฏว่า ข้อที่มีผลสัมฤทธิ์สูงสุด ได้แก่ วิทยากรมีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้และทักษะปฏิบัติอย่างหลากหลาย รองลงมาได้แก่ มีหลักสูตรต่าง ๆ อย่างหลากหลาย เพื่อสนองตอบความต้องการของผู้เข้ารับการฝึกอบรม, ได้รับความรู้และการฝึกทักษะปฏิบัติจริง, การนำความรู้และทักษะปฏิบัติที่ได้รับไปพัฒนาผลผลิตของตนเองตามลำดับ และการนำความรู้และทักษะปฏิบัติที่ได้รับไปเผยแพร่ต่อชุมชนและสังคม มีผลการประเมิน ต่ำที่สุด และ 3) ผลการประเมินด้านคุณภาพและความพึงพอใจของผู้ร่วมกิจกรรมโครงการ ปรากฏว่า มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อปรากฏว่า ข้อที่มีผลสัมฤทธิ์สูงสุด ได้แก่ การจำหน่ายผลผลิตที่เกิดจากการฝึกอบรม รองลงมา ได้แก่ การนำความรู้/ทักษะปฏิบัติที่ได้รับไปใช้ในการประกอบอาชีพหรือหารายได้เสริมให้กับครอบครัว, คุณภาพของผลผลิตเป็นที่ยอมรับของชุมชนและสังคม, ความพึงพอใจโดยภาพรวมของโครงการ ตามลำดับ และด้านบรรยากาศในการฝึกอบรม/การร่วมกิจกรรม มีผลการประเมินต่ำที่สุด และมีข้อเสนอแนะ คือ 1) ควรมีสถานที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น แบบสินค้า OTOP
2) ควรจัดอบรมในวันเสาร์ – อาทิตย์ เพิ่มขึ้น 3) อุปกรณ์บางอย่างที่จำเป็นต้องใช้ หาซื้อไม่ได้ ควรจะมีข้อมูลของแหล่งจำหน่ายอุปกรณ์
References
Ariyasom, S. (2012). Assessment report of the project to promote knowledge management in the organization Fiscal Year 2012. Lampang: Non-National Education Department, Hang Chat.
Boonchaliew, N. (2017). Evaluation report Huai Lan Area Development Project, Due to the Royal Initiative, On Tai Subdistrict, San Kamphaeng District, Chiang Mai Province. Chiang Mai: Office of the Special Commission to Coordinate Royal Initiative Projects.
Education Council Secretariat. (2017). National Education Plan 2017 – 2579. National Education Plan 2017-2579. Education Council Secretariat Ministry of Education. Bangkok: Education Council Secretariat.
Government Gazette. (2017). 20 Year National Strategic Plan (2017-2037). A national development plan that sets out the framework and development guidelines for all government agencies to follow in order to achieve the vision of Thailand. [Online]. http://nscr.nesdc.go.th/ [7 February 2020]
Government Gazette. (2017). Constitution of the Kingdom of Thailand. Government Gazette, No.134,14-15.
Government Gazette. (2017). National strategy (2017-2507). (Government Gazette,No.135,1.
Jareonsettasin, T. (2017). Policy focus of the Minister of Education. [Online] http://www.nswpeo.go.th/main/index.php/download/document/98-Policy. [5 February 2020]
Meepanya, A. (2012). Project Assessment Report: Project to Promote Income During Study:Career Market Activities,Year 2012. Pathumthani: Triam Udom Suksa Patthanakarn Lamlukka School.
Office of the National Economic and Social Development Board. (2016). National Economic and Social Development Plan No. 12 (2017-2021). [Online]. https://www.nesdc.go.th/ewt_w3c/ewt_dl_link.php?nid=6422. [7 February 2020]
Ritcharoon, P. (2020). Management of research projects to achieve results. Sripatum Chonburi Journal, No.17 (1), 179-189.
School of Agro-Industry, Mae Fah Luang University. (2011). Implementation of the project of vocational training in bakery baking for female inmates who are nearing release from the Central Prison, Chiang Rai Province (Continuing project for the 4th year). Chiang Rai: School of Agro-Industry, Mae Fah Luang University.
Silpcharu, T. (2007). Research and statistical analysis with SPSS. Bangkok: SE-Education.
Srisakda, S. et. Al. (2020). Supervision model to promote research compretencies of vocational education teachers. Journal of Education Naresuan University, 22 (1), 287-300.
Yongpoomputta, K. (2008). Assessment of Training Evaluation of Integrated Vocational Development Project for Sustainable Poverty Solution of Housewives in Prachuap Khiri Khan Province. Bangkok: Srinakharinwirot University.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2021 วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์เป็นของผู้ประพันธ์บทความ