ผลของการฝึกโยคะที่มีต่อการพัฒนาสุขภาพของผู้สูงอายุ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
คำสำคัญ:
โปรแกรมการฝึกโยคะ, การพัฒนาทางสุขภาพ, ผู้สูงอายุบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลและเปรียบเทียบผลของการฝึกโยคะที่มีต่อการพัฒนาทางสุขภาพของผู้สูงอายุ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นอาสาสมัครผู้สูงอายุเพศหญิงและชาย มีอายุ 60 ปีขึ้นไป อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 30 คน ทำการฝึกโยคะเป็นเวลา 10 สัปดาห์ ๆ ละ 3 วัน ในวันจันทร์ พุธ และศุกร์ เวลา 17.30-18.30 น. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย โปรแกรมการฝึกโยคะ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป และแบบบันทึกการทดสอบทางสุขภาพทางกายและทางจิต ในการเก็บรวบรวมข้อมูลมีการทดสอบทางสุขภาพทางกายและทางจิต ก่อนและหลังการฝึก เพื่อประเมินผลสุขภาพหลังสิ้นสุดการฝึกโยคะ สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทำการทดสอบความแตกต่างก่อนและหลังการฝึกด้วยค่าที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า ค่าเฉลี่ยการพัฒนาทางสุขภาพทางกายและทางจิต ทุกตัวบ่งชี้ดีขึ้น ดังนี้ น้ำหนักตัว ดัชนีมวลกาย เปอร์เซ็นต์ไขมัน ไขมันโคเลสเตอรอล (Cholesterol) ไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ไขมันชนิดแอลดีแอลโคเลสเตอรอล (LDL-Cholesterol) มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าก่อนการฝึก ส่วนความอ่อนตัวของขาและหลัง ความอ่อนตัวของไหล่ขวา ความอ่อนตัวของไหล่ซ้าย การทรงตัว แรงบีบมือ ความจุปอด การกระโดดสูง ความดันโลหิตซิสโตลิค (Systolic) ความดันโลหิตไดแอสโตลิค (Diastolic) ชีพจร (Pulse Rate) ไขมันชนิดเอชดีแอลโคเลสเตอรอล (HDL-Cholesterol) มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการฝึก และการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของการพัฒนาทางสุขภาพทางกายและทางจิต ก่อนและหลังการฝึก 10 สัปดาห์ ของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ความดันโลหิตไดแอสโตลิค (Diastolic) ไขมันโคเลสเตอรอล (Cholesterol) ไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ไขมันชนิดแอลดีแอลโคเลสเตอรอล (LDL-Cholesterol) ไขมันชนิดเอชดีแอลโคเลสเตอรอล (HDL-Cholesterol) มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้นน้ำหนักตัว ความดันโลหิตซิสโตลิค (Systolic) และชีพจร นั้นไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนความอ่อนตัวของขาและหลัง ความอ่อนตัวของไหล่ขวา ความอ่อนตัวของไหล่ซ้าย เปอร์เซ็นต์ไขมัน การบีบมือ ความจุปอด และการกระโดดสูงมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้นดัชนีมวลกาย และการทรงตัว พบว่า ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และการเปรียบเทียบการพัฒนาทางสุขภาพทางกายและทางจิตกับเกณฑ์มาตรฐาน พบว่า ค่าเฉลี่ยของไขมันโคเลสเตอรอล (Cholesterol) ไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) และไขมันชนิดเอชดีแอลโคเลสเตอรอล (HDL-Cholesterol) ของกลุ่มตัวอย่างก่อนและหลังการฝึกอยู่ในระดับปกติเมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนค่าเฉลี่ยของไขมันชนิดแอลดีแอลโคเลสเตอรอล (LDL-Cholesterol) ของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ก่อนการฝึกอยู่ในระดับสูง แต่หลังจากการฝึก พบว่า อยู่ในระดับปกติเมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนค่าเฉลี่ยของดัชนีมวลกาย ของกลุ่มตัวอย่างทั้งก่อนและหลังการฝึกอยู่ในระดับพอเหมาะเมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนค่าเฉลี่ยของความอ่อนตัวของขาและหลังของกลุ่มตัวอย่างอยู่ในระดับพอใช้ทั้งก่อนและหลังการฝึกเมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนค่าเฉลี่ยของความอ่อนตัวของไหล่ขวาของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ก่อนและหลังการฝึกอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนค่าเฉลี่ยของความอ่อนตัวของไหล่ซ้ายของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ก่อนและหลังการฝึกอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนค่าเฉลี่ยของการทรงตัวของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ก่อนและหลังการฝึกอยู่ในระดับต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนค่าเฉลี่ยของเปอร์เซ็นต์ไขมันของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ก่อนและหลังการฝึกอยู่ในระดับพอใช้เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนค่าเฉลี่ยแรงบีบมือของกลุ่มตัวอย่างก่อนการฝึกอยู่ในระดับต่ำ หลังจากการฝึกอยู่ในระดับพอใช้เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนค่าเฉลี่ยของความจุปอดของกลุ่มตัวอย่างก่อนการฝึกอยู่ในระดับพอใช้ แต่หลังจากการฝึกอยู่ในระดับดีมากเมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนค่าเฉลี่ยของการกระโดดสูงของกลุ่มตัวอย่างก่อนและหลังการฝึกอยู่ในระดับต่ำ แต่หลังจากการฝึกอยู่ในระดับดีเมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน
เอกสารอ้างอิง
Chanlakon, A. (1990). Comparison of maximal aerobic capacity between oxytocin recovery and non-oxygenation from oxygen machines after exercise. Master's Thesis Chulalongkorn University.
Cheetalak, T. (2003). The effect of rotational weight training on the development of healthy physical fitness among undergraduate male students. Master's Thesis: Chulalongkorn University.
Department of Health. (2018). Enhancing the health of the elderly through exercise. [Online]. https://multimedia.anamai.moph.go.th/help-knowledgs/exercises-for-seniors/. [12 march 2020]
Institute of Geriatric Medicine. (2002). Self-care for the elderly. Nonthaburi: Institute of Geriatric Medicine.
Karpovich, Peter V. (1966). Physiology of Muscular Activity. Philadelphia and London: W.B. Sandero.
Khammuang, B. (2007). Get in shape with yoga in 30 days. Bangkok: Health Clinic.
NuanChai, T. (1994). yoga. Bangkok: Kan Kaem.
Paliwanich, J, et al. (2007). Studying the effect of yoga on physical fitness. Buddhachinaraj Medical Journal. 22(3), 252-258.
Phanthong, S, et al. (2005). 7-day yoga. Bangkok: Type Kham.
Phutichan, P. (1992). Exercise Physiology. Bangkok: Odeon Store.
Raknui, P. (2003). The effect of a yoga program on reducing stress and blood pressure in hypertensive individuals. Master's Thesis: Songkla University.
Silanoi, L. (2001). Yoga Fountain of Childhood. Bangkok: Dok Ya.
Sirisukcharoenporn, T. (1997). Sports science. Bangkok: Suan Dusit University.
Skybooks. (2002). Includes rules and basics of playing soccer. Bangkok: Siam Sport Syndicate.
Somsup, Y., et al. (2007). To study the effect of yoga practice on health status of practicing and non-practicing adolescent girls. Songkla: Prince of Songkla University.
Sorochan, Walter D. (1981). Promoting Your Health. New York: John Wiley & Sons.
Srimuang, T. (2002). Comparison of hatha yoga exercises with homeopathic dance postures that affect the body and mind. Master's Thesis: Burapha University.
Supaporn, S. (2001). dantian yoga. Bangkok: Fuengfah Printing.
Supattanaset, S. (1982). The effect of hatha yoga on muscle strength Flexibility and performance. Master's Thesis: Chulalongkorn University.
Vejchaphaet, C and Palawiwat, K. (1993). Exercise physiology. Bangkok: Tankamol press limited partnership.
Wichienrat, S. (2004). To study the effect of a yoga program combined with a group process on physical fitness. of nursing students. Master's Thesis: Chulalongkorn University.
Worapongphichet, P. (1999). Yoga for physical and mental development. Bangkok: Chulalongkorn University.
Worapongphichet, P. (2007). Yoga for physical and mental development. Bangkok: Chulalongkorn University.
Yuwajitti, S. (1997). Yoga for physical and mental energy. Bangkok: the transmission line for mental health.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์เป็นของผู้ประพันธ์บทความ
