Submissions

Login or Register to make a submission.

Submission Preparation Checklist

As part of the submission process, authors are required to check off their submission's compliance with all of the following items, and submissions may be returned to authors that do not adhere to these guidelines.
  • The submission has not been previously published, nor is it before another journal for consideration (or an explanation has been provided in Comments to the Editor).
  • The submission file is in OpenOffice, Microsoft Word, or RTF document file format.
  • Where available, URLs for the references have been provided.
  • The text is single-spaced; uses a 12-point font; employs italics, rather than underlining (except with URL addresses); and all illustrations, figures, and tables are placed within the text at the appropriate points, rather than at the end.
  • The text adheres to the stylistic and bibliographic requirements outlined in the Author Guidelines.

Author Guidelines

วารสารเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการตีพิมพ์จำนวน 4,000 บาท

เรียน ท่านผู้ส่งบทความมาเพื่อขอพิจารณาตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารฯ

เนื่องจากเครือข่ายวิจัยประชาชื่น มิได้ทำการจดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคล แต่มีวัตถุประสงค์การดำเนินงานที่ไม่มุ่งหวังผลกำไร ทั้งนี้ รายได้จากการดำเนินงานในแต่ละด้านจะมาจากการรับบริจาค การรับเงินสนับสนุนจากสมาชิก การจัดกิจกรรม รวมทั้งการดำเนินงานด้านการจัดทำวารสารวิชาการ ดังนั้น การรับชำระเงินค่าตีพิมพ์เพื่อสนับสนุนการดำเนินการจัดทำวารสารวิชาการฉบับนี้ ทางเครือข่ายวิจัยประชาชื่น จะถือว่าท่านเป็นผู้มีอุปการคุณ ในการสร้างประโยชน์ทางวิชาการให้แก่สังคม ซึ่งทางวารสารฯ จะออกเอกสารรับเงินเพื่อเป็นหลักฐานแก่ท่าน โดยท่านสามารถโอนเงินสนับสนุนมาได้ที่

บัญชี ธนาคารกรุงเทพ      เลขที่ 006-8-13997-1
ชื่อบัญชี นายอภิเทพ แซ่โค้ว และ น.ส.รสิกา อังกูร และ นายสุบิน ยุระรัช

(กรุณาแนบหลักฐานการชำระเงินมาในกระทู้ในหน้าเว็ปการส่งบทความของท่าน โดยเลือกปุ่ม Add discussion)

อัตราค่าใช้จ่ายในการตีพิมพ์
- สำหรับนักศึกษา คณาจารย์ และบุคคลทั่วไป มีค่าใช้จ่ายจำนวน 4,000.- บาท/บทความ
ชำระส่วนแรก จำนวน 2,000 บาท (โดยชำระทันทีเมื่อส่งบทความในระบบวารสารฯ) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการตรวจประเมินคุณภาพบทความ (หากบทความไม่ผ่านการพิจารณา ทางวารสารฯ จะไม่คืนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการประเมินบทความเกิดขึ้นแล้ว)
ชำระส่วนที่สอง จำนวน 2,000 บาท เมื่อได้รับการยืนยันว่าบทความผ่านการประเมินคุณภาพสามารถเผยแพร่ได้ (ก่อนการตอบรับตีพิมพ์ในระบบ)
*** เฉพาะบทความภาษาอังกฤษจะมีค่าตรวจสอบภาษาโดยผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมอีก 2,500 บาท/บทความ
(For articles in English, an additional language check fee of 2,500 baht per article will be charged.)

คำแนะนำสำหรับผู้เขียนสำหรับการส่งบทความต้นฉบับเพื่อขอรับการพิจารณาตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น

(Manuscript Requirements and Style Guide for Authors)

ดาวน์โหลดไฟล์คำแนะนำสำหรับผู้เขียน และ ตัวอย่างการจัดรูปแบบของบทความ

สำหรับบทความวิชาการ

เป็นบทความที่มุ่งถ่ายทอดความรู้ที่เกิดจาก การทบทวนวรรณกรรม การสังเคราะห์งานวิจัยและงานวิชาการ โดยมีการนำเสนออย่างเป็นระบบและตั้งอยู่บนพื้นฐานทางวิชาการที่มีความเชื่อถือ มีการอ้างอิงหลักฐานทางวิชาการอย่างเหมาะสมและเชื่อถือได้ มีการวิเคราะห์และวิจารณ์ที่ชี้ให้ผู้อ่านเห็นประเด็นสำคัญอันเป็นองค์ความรู้ที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอ รวมถึงมีการเรียบเรียงเนื้อหาอย่างเหมาะสม การเขียนต้องยึดตามหลักวิชาการและจริยธรรมทางวิชาการ โดยส่วนประกอบของบทความวิชาการมีดังนี้

  1. ส่วนนำ โดยกล่าวถึงความเป็นมาที่สำคัญของประเด็นที่ต้องการนำเสนอ พื้นฐานขององค์ความรู้ที่ต้องการนำมาสนับสนุน ลักษณะหรือสภาพปัจจุบันของประเด็นที่ต้องการนำเสนอ มีความร่วมสมัย รวมถึงการแสดงข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับประโยชน์ของบทความที่ผู้อ่านจะได้รับ
  2. ส่วนสาระสำคัญของบทความ ควรมีการจัดโครงสร้างและลำดับเนื้อหาสาระของบทความ โดยผู้เขียนควรมีการวางแผนในการลำดับเนื้อหาที่นำเสนอให้มีความเหมาะสม มีความต่อเนื่องและความเหมาะสมของภาษาที่ใช้ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาที่นำเสนอได้ง่าย หากมีองค์ความรู้หลายส่วนที่ประกอบกันเป็นบทความ ควรแบ่งส่วนให้ชัดเจนตามลำดับที่เหมาะสมและควรแสดงการเชื่อมโยงแต่ละส่วนให้เหมาะสม
  3. ส่วนสรุป บทความวิชาการที่ดีควรมีการสรุปประเด็นสำคัญที่ได้กล่าวมาให้ชัดเจน อาจเป็นลักษณะของการย่อความและเลือกเก็บประเด็นสำคัญของบทความมาทบทวนความเข้าใจของผู้อ่าน ในส่วนของการสรุปท้ายบท
  4. ส่วนอ้างอิง บทความวิชาการจะต้องเป็นงานที่อยู่บนพื้นฐานทางวิชาการที่เกิดจากการสรุป วิเคราะห์หรือสังเคราะห์ งานทางวิชาการของผู้อื่น จึงจำเป็นต้องมีการอ้างอิงที่ถูกต้องตามรูปแบบงานเขียนทางวิชาการ

สำหรับบทความวิจัย

เป็นบทความทางวิชาการที่มุ่งนำเสนอผลที่ได้จากการวิจัยที่มีระเบียบวิธีการดำเนินการที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งบทความวิจัย ควรประกอบด้วย

  1. บทนำ (Introduction) / ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา โดยนำเสนอถึงที่มาของการทำวิจัย ความสำคัญที่ทำให้เกิดงานวิจัย ควรมีการนำเสนอภาพรวมของบทความ สถานการณ์ปัจจุบันของประเด็นที่ศึกษา แนวโน้มที่สำคัญ รวมถึงการให้ความหมายหรือนิยามศัพท์เฉพาะ ตลอดจนประโยชน์ที่ได้รับจากงานวิจัย ทั้งประโยชน์ทางวิชาการและประโยชน์ในการนำผลวิจัยไปประยุกต์ใช้
  2. การทบทวนวรรณกรรม (Literature Review) ที่ครอบคลุมแนวคิดและทฤษฎีที่ถูกนำมาใช้ในการวิจัย รวมถึงงานวิจัยที่นำมาใช้สนับสนุนหรือตามที่ผู้วิจัยใช้เป็นฐานของกรอบแนวความคิดในการทำวิจัย
  3. วิธีการดำเนินการวิจัย (Research Methodology) ควรมีการอธิบายถึงระเบียบวิธีการวิจัยที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ประชากรที่ใช้ในศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ จำนวนและวิธีการสุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แนวทางการวิเคราะห์ผลหรือวิธีการทางสถิติ
  4. ผลการวิจัย (Research Findings) ควรเป็นการนำเสนอผลการวิจัยที่ชัดเจน สอดคล้องและครอบคลุมตามชื่อเรื่อง โดยอาจนำเสนอตามลำดับของวัตถุประสงค์หรือสมมติฐาน แต่จะต้องมีการนำเสนอภาพ ตาราง ค่าทางสถิติ การทดสอบสมมติฐาน ให้ถูกต้องตามหลักสากล
  5. สรุปและอภิปรายผล (Conclusion and Discussion) การสรุปควรทำการสรุปตามวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนและควรมีการแสดงข้อค้นพบให้ชัดเจน สำหรับการอภิปรายผลควรนำข้อค้นพบที่ได้จากการวิจัยมาทำการอภิปรายให้เกิดภาพที่ชัดเจนต่อผู้อ่าน เช่น สาเหตุที่ผลวิจัยเป็นเช่นนั้น การสนับสนุนแนวคิดตามกรอบการวิจัยหรือไม่ มีความสอดคล้องและสนับสนุนแนวคิดหรือทฤษฎีที่นำมาเป็นพื้นฐานในการทำวิจัยหรือไม่
  6. ข้อเสนอแนะ ผู้เขียนควรทำการเสนอแนะในแง่มุมทางวิชาการ การเกิดองค์ความรู้ใหม่ หรือความรู้ที่ได้จากการทำวิจัยตามบริบทและขอบเขตของการวิจัยในครั้งนี้ ควรมีการสรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการศึกษา รวมถึงประโยชน์ที่ได้รับในแง่ของการในไปประยุกต์ใช้ นอกจากนี้ ควรเสนอแนะในแง่ของงานวิจัยในอนาคตควรศึกษาประเด็นใดเพิ่มเติมหรือควรระวังข้อจำกัดใดบ้าง
  7. เอกสารอ้างอิง ทุกรายการอ้างอิงที่อยู่ในตัวบทความ จะต้องปรากฎรายการอ้างอิงท้ายบทความ และให้แสดงรายการอ้างอิงเฉพาะที่ปรากฎในบทความเท่านั้น (โดยรูปแบบการอ้างอิงให้ยึดตาม APA 7th )

ดาวน์โหลดไฟล์คำแนะนำสำหรับผู้เขียน และ ตัวอย่างการจัดรูปแบบของบทความ

 

 

Academic Article

บทความวิชาการ

เป็นบทความที่มุ่งถ่ายทอดความรู้ที่เกิดจาก การทบทวนวรรณกรรม การสังเคราะห์งานวิจัยและงานวิชาการ โดยมีการนำเสนออย่างเป็นระบบและตั้งอยู่บนพื้นฐานทางวิชาการที่มีความเชื่อถือ มีการอ้างอิงหลักฐานทางวิชาการอย่างเหมาะสมและเชื่อถือได้ มีการวิเคราะห์และวิจารณ์ที่ชี้ให้ผู้อ่านเห็นประเด็นสำคัญอันเป็นองค์ความรู้ที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอ รวมถึงมีการเรียบเรียงเนื้อหาอย่างเหมาะสม การเขียนต้องยึดตามหลักวิชาการและจริยธรรมทางวิชาการ โดยส่วนประกอบของบทความวิชาการมีดังนี้

  1. ส่วนนำ โดยกล่าวถึงความเป็นมาที่สำคัญของประเด็นที่ต้องการนำเสนอ พื้นฐานขององค์ความรู้ที่ต้องการนำมาสนับสนุน ลักษณะหรือสภาพปัจจุบันของประเด็นที่ต้องการนำเสนอ มีความร่วมสมัย รวมถึงการแสดงข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับประโยชน์ของบทความที่ผู้อ่านจะได้รับ
  2. ส่วนสาระสำคัญของบทความ ควรมีการจัดโครงสร้างและลำดับเนื้อหาสาระของบทความ โดยผู้เขียนควรมีการวางแผนในการลำดับเนื้อหาที่นำเสนอให้มีความเหมาะสม มีความต่อเนื่องและความเหมาะสมของภาษาที่ใช้ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาที่นำเสนอได้ง่าย หากมีองค์ความรู้หลายส่วนที่ประกอบกันเป็นบทความ ควรแบ่งส่วนให้ชัดเจนตามลำดับที่เหมาะสมและควรแสดงการเชื่อมโยงแต่ละส่วนให้เหมาะสม
  3. ส่วนสรุป บทความวิชาการที่ดีควรมีการสรุปประเด็นสำคัญที่ได้กล่าวมาให้ชัดเจน อาจเป็นลักษณะของการย่อความและเลือกเก็บประเด็นสำคัญของบทความมาทบทวนความเข้าใจของผู้อ่าน ในส่วนของการสรุปท้ายบท
  4. ส่วนอ้างอิง บทความวิชาการจะต้องเป็นงานที่อยู่บนพื้นฐานทางวิชาการที่เกิดจากการสรุป วิเคราะห์หรือสังเคราะห์ งานทางวิชาการของผู้อื่น จึงจำเป็นต้องมีการอ้างอิงที่ถูกต้องตามรูปแบบงานเขียนทางวิชาการ

Research Articles

บทความวิจัย

เป็นบทความทางวิชาการที่มุ่งนำเสนอผลที่ได้จากการวิจัยที่มีระเบียบวิธีการดำเนินการที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งบทความวิจัย ควรประกอบด้วย

  1. บทนำ (Introduction) / ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา โดยนำเสนอถึงที่มาของการทำวิจัย ความสำคัญที่ทำให้เกิดงานวิจัย ควรมีการนำเสนอภาพรวมของบทความ สถานการณ์ปัจจุบันของประเด็นที่ศึกษา แนวโน้มที่สำคัญ รวมถึงการให้ความหมายหรือนิยามศัพท์เฉพาะ ตลอดจนประโยชน์ที่ได้รับจากงานวิจัย ทั้งประโยชน์ทางวิชาการและประโยชน์ในการนำผลวิจัยไปประยุกต์ใช้
  2. การทบทวนวรรณกรรม (Literature Review) ที่ครอบคลุมแนวคิดและทฤษฎีที่ถูกนำมาใช้ในการวิจัย รวมถึงงานวิจัยที่นำมาใช้สนับสนุนหรือตามที่ผู้วิจัยใช้เป็นฐานของกรอบแนวความคิดในการทำวิจัย
  3. วิธีการดำเนินการวิจัย (Research Methodology) ควรมีการอธิบายถึงระเบียบวิธีการวิจัยที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ประชากรที่ใช้ในศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ จำนวนและวิธีการสุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แนวทางการวิเคราะห์ผลหรือวิธีการทางสถิติ
  4. ผลการวิจัย (Research Findings) ควรเป็นการนำเสนอผลการวิจัยที่ชัดเจน สอดคล้องและครอบคลุมตามชื่อเรื่อง โดยอาจนำเสนอตามลำดับของวัตถุประสงค์หรือสมมติฐาน แต่จะต้องมีการนำเสนอภาพ ตาราง ค่าทางสถิติ การทดสอบสมมติฐาน ให้ถูกต้องตามหลักสากล
  5. สรุปและอภิปรายผล (Conclusion and Discussion) การสรุปควรทำการสรุปตามวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนและควรมีการแสดงข้อค้นพบให้ชัดเจน สำหรับการอภิปรายผลควรนำข้อค้นพบที่ได้จากการวิจัยมาทำการอภิปรายให้เกิดภาพที่ชัดเจนต่อผู้อ่าน เช่น สาเหตุที่ผลวิจัยเป็นเช่นนั้น การสนับสนุนแนวคิดตามกรอบการวิจัยหรือไม่ มีความสอดคล้องและสนับสนุนแนวคิดหรือทฤษฎีที่นำมาเป็นพื้นฐานในการทำวิจัยหรือไม่
  6. ข้อเสนอแนะ ผู้เขียนควรทำการเสนอแนะในแง่มุมทางวิชาการ การเกิดองค์ความรู้ใหม่ หรือความรู้ที่ได้จากการทำวิจัยตามบริบทและขอบเขตของการวิจัยในครั้งนี้ ควรมีการสรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการศึกษา รวมถึงประโยชน์ที่ได้รับในแง่ของการในไปประยุกต์ใช้ นอกจากนี้ ควรเสนอแนะในแง่ของงานวิจัยในอนาคตควรศึกษาประเด็นใดเพิ่มเติมหรือควรระวังข้อจำกัดใดบ้าง
  7. เอกสารอ้างอิง ทุกรายการอ้างอิงที่อยู่ในตัวบทความ จะต้องปรากฎรายการอ้างอิงท้ายบทความ และให้แสดงรายการอ้างอิงเฉพาะที่ปรากฎในบทความเท่านั้น (โดยรูปแบบการอ้างอิงให้ยึดตาม APA 6th )

Privacy Statement

The names and email addresses entered in this journal site will be used exclusively for the stated purposes of this journal and will not be made available for any other purpose or to any other party.