https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/issue/feed วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น 2025-03-30T13:09:03+07:00 ดร.กฤษดา เชียรวัฒนสุข Krisada.dba@gmail.com Open Journal Systems <p>วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น จัดทำในรูปแบบวารสารวิชาการที่เผยแพร่เป็นราย 4 เดือน มีการเปิดรับบทความเพื่อเข้ารับการพิจารณา ได้แก่ บทความวิจัย (Research Article) บทความวิชาการ (Academic Article) บทความปริทรรศน์หรือบทวิจารณ์วรรณกรรม (Review Article) บทวิจารณ์หนังสือ (Book Review)</p> https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/283260 บุพปัจจัยคุณภาพชีวิตการทำงานของบุคลากรในกรมราชทัณฑ์ในจังหวัดปทุมธานี 2024-11-12T19:09:38+07:00 มัณทนา ชำนาญกิจ Mantana_c@mail.rmutt.ac.th นฤมล จิตรเอื้อ naruemon_j@rmutt.ac.th ธีทัต ตรีศิริโชติ teetut@go.buu.ac.th <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการวัดผลเชิงดุลยภาพ การบริหารจัดการทรัพยากรบุคลากร และคุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากรสังกัดกรมราชทัณฑ์ในจังหวัดปทุมธานี รวมถึงปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงาน การวิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง 480 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้างด้วยวิธี PLS-SEM โดยพิจารณาค่าสัมประสิทธิ์เส้นทาง ค่าสัมประสิทธิ์การตัดสินใจ และขนาดของผลกระทบ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า การวัดผลเชิงดุลยภาพมีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญต่อคุณภาพชีวิตการทำงานทั้งทางตรง (0.602) และทางอ้อม (0.0285) ผ่านการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ รวมเป็นอิทธิพลรวม 0.887 (p &lt; 0.001, f² = 0.72) การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์มีอิทธิพลทางตรงต่อคุณภาพชีวิตการทำงาน (0.328, p &lt; 0.001, f² = 0.215) และการวัดผลเชิงดุลยภาพมีอิทธิพลทางตรงต่อการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ (0.866, f² = 3.003, p &lt; 0.001) สามารถอธิบายความแปรปรวนของคุณภาพชีวิตการทำงานได้ 81.3% (R² = 0.813) ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงาน ได้แก่ 1) การวัดผลเชิงดุลยภาพเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลมากที่สุด 2) การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ และ 3) ปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองปัจจัย องค์ความรู้ใหม่คือ การค้นพบความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างการวัดผลเชิงดุลยภาพและคุณภาพชีวิตการทำงานในบริบทของหน่วยงานราชการไทย ซึ่งแตกต่างจากการศึกษาในภาคเอกชนที่มักพบว่าปัจจัยด้านค่าตอบแทนมีความสำคัญสูงสุด</p> 2025-03-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2025 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/280500 ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของข้าราชการธุรการ ในสังกัดสำนักงานอัยการภาค 7 2024-08-15T18:40:03+07:00 ชินีนาถ หมายเหนี่ยง 2653001848@stou.ac.th นฤบดี วรรธนาคม narubodee.wat@stou.ac.th ภาวิน ชินะโชติ pavin.chi@stou.ac.th <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ 2) ศึกษาปัจจัยจูงใจและปัจจัยค้ำจุน 3) ศึกษาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน 4) ศึกษาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานจำแนกตามปัจจัยประชากรศาสตร์ และ 5) ศึกษาอิทธิพลของปัจจัยจูงใจและปัจจัยค้ำจุนที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ข้าราชการธุรการในสังกัดสำนักงานอัยการภาค 7 จำนวน 354 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 27 - 44 ปี มีระดับการศึกษาระดับปริญญาตรี มีตำแหน่งงานเป็นนักจัดการงานทั่วไปและนิติกร และมีระยะเวลาการปฏิบัติงานน้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 ปี 2) ข้าราชการธุรการในสังกัดสำนักงานอัยการภาค 7 เล็งเห็นว่าปัจจัยจูงใจและปัจจัยค้ำจุนเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างมาก 3) ข้าราชการธุรการในสังกัดสำนักงานอัยการภาค 7 เล็งเห็นว่าประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานมีความสำคัญอย่างมาก 4) เปรียบเทียบประสิทธิภาพการปฏิบัติงานจำแนกตามปัจจัยประชากรศาสตร์ พบว่า ด้านระดับการศึกษาที่แตกต่างกัน มีประสิทธิภาพการปฏิบัติงานแตกต่างกัน และ 5) ปัจจัยจูงใจ ได้แก่ ด้านความสำเร็จของงาน ด้านลักษณะงาน และปัจจัยค้ำจุน ได้แก่ ด้านเงินเดือนและสวัสดิการ ด้านสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน ด้านความมั่นคงในการทำงาน ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของข้าราชการธุรการในสังกัดสำนักงานอัยการภาค 7</p> 2025-04-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2025 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/278488 ความสัมพันธ์ของการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนที่มีผลต่อประสิทธิภาพ ในการดำเนินกิจการและมูลค่าองค์กร ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย กลุ่มหุ้นยั่งยืน THSI 2024-12-03T10:52:35+07:00 วรพรรณ เขียวรูจี worapan.khiewrujee1@gmail.com สุรีย์ โบษกรนัฏ awc272727@gmail.com ถิรวุฒิ ยังสุข awc272727@gmail.com <p>การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการและมูลค่าองค์กร ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มหุ้นยั่งยืน THSI เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างสุ่มแบบเฉพาะเจาะจงคือบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีรายชื่ออยู่ในกลุ่มหุ้นยั่งยืน THSI อย่างต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2563 - 2565 จำนวน 3 ปี 90 บริษัท ดังนั้นกลุ่มตัวอย่างจะมีจำนวนทั้งสิ้น 270 ข้อมูล ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ เพื่อทดสอบสมมติฐานการวิจัย</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) การเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมมีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อประสิทธิภาพ การดำเนินกิจการด้านอัตรากำไรสุทธิ ประสิทธิภาพการดำเนินกิจการด้านอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล ประสิทธิภาพ การดำเนินกิจการด้านอัตราผลตอบแทนจากกำไรสุทธิต่อหุ้น ประสิทธิภาพการดำเนินกิจการ ด้านอัตราเงินปันผลต่อหุ้น และการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนด้านสังคมมีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อประสิทธิภาพการดำเนินกิจการด้านอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ ประสิทธิภาพการดำเนินกิจการด้านอัตราผลตอบแทนส่วนของผู้ถือหุ้นมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ 0.01 และ 2) การเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมมีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อมูลค่าองค์กรด้านอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ และการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนด้านสังคม มีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อมูลค่าองค์กรด้านอัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าทางบัญชี ในขณะที่ การเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนด้านบรรษัทภิบาลมีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อมูลค่าองค์กรด้าน Tobin’s Q มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 </p> 2025-04-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2025 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น