https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/issue/feed วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น 2023-12-28T14:16:36+07:00 ดร.กฤษดา เชียรวัฒนสุข [email protected] Open Journal Systems <p>วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น จัดทำในรูปแบบวารสารวิชาการที่เผยแพร่เป็นราย 4 เดือน มีการเปิดรับบทความเพื่อเข้ารับการพิจารณา ได้แก่ บทความวิจัย (Research Article) บทความวิชาการ (Academic Article) บทความปริทรรศน์หรือบทวิจารณ์วรรณกรรม (Review Article) บทวิจารณ์หนังสือ (Book Review)</p> https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/274204 ความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนในมุมมองของสนามบิน 2023-12-28T14:16:36+07:00 ณัฐพล มหาทรัพย์ [email protected] เนาวรัตน์ น่วมแก้ว [email protected] <p>หนังสือเล่มนี้ชวนให้ผู้อ่านได้เข้าใจในประเด็นที่สำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัย และการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนในมุมมองของสนามบิน ซึ่งถือเป็นหนังสือที่น่าสนอย่างยิ่งในบริบทของอุตสาหกรรมการบิน ที่ได้ถูกนำมาถ่ายทอดและเรียบเรียงเป็นภาษาไทย โดยหนังสือเล่มนี้เป็นการปูพื้นฐานความรู้ ทั้งด้านแนวคิด ด้านทฤษฎี และมีการยกตัวอย่างที่สอดแทรกในแต่ละบทเพื่อให้เห็นภาพความสำคัญของความปลอดภัย และการรักษาความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี</p> 2023-12-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2023 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/265711 ส่วนประสมทางการตลาดบริการและคุณภาพการให้บริการที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการเลือกใช้บริการของลูกค้า ร้าน 918 คาร์ ดีเทลลิ่ง สปา แอนด์ วอช 2023-08-08T13:18:58+07:00 รัฐชัย ชูทองรัตน์ [email protected] พัชร์หทัย จารุทวีผลนุกูล [email protected] <p>งานวิจัยในครั้งนี้เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยของประชากรศาสตร์ ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ปัจจัยคุณภาพในการให้บริการที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้า ในการเลือกใช้บริการ ร้าน 918 คาร์ ดีเทลลิ่ง สปา แอนด์ วอช ประชากรที่ใช้ในงานวิจัยคือ ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการร้าน 918 คาร์ ดีเทลลิ่ง สปา แอนด์ วอช โดยสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ผู้วิจัยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 400 คน ผลการทดสอบความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม ในแต่ละด้านมีค่าอยู่ระหว่าง 0.743 ถึง 0.924 สามารถนำไปใช้ในการวิจัยได้ การวิเคราะห์สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าความถี่ และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ การทดสอบค่าเฉลี่ย การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุคูณ</p> <p>ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า 1) ปัจจัยประชากรศาสตร์ ได้แก่ อายุ อาชีพ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ที่แตกต่างกันส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าในการเลือกใช้บริการร้าน 918 คาร์ ดีเทลลิ่ง สปา แอนด์ วอช แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 2) ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการ ได้แก่ ด้านราคา ด้านสถานที่ตั้ง ด้านการส่งเสริมการตลาดและ ด้านกระบวนการให้บริการ ส่งผลต่อความพึงพอใจในการเลือกใช้บริการร้าน 918 คาร์ ดีเทลลิ่ง สปา แอนด์ วอช อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 อำนาจในการพยากรณ์ร้อยละ 14.7 และ 3) ปัจจัยคุณภาพในการให้บริการ ได้แก่ ด้านความเป็นรูปธรรมของการบริการ และด้านการตอบสนองต่อผู้รับบริการ ส่งผลต่อความพึงพอใจในการเลือกใช้บริการร้าน 918 คาร์ ดีเทลลิ่ง สปา แอนด์ วอช อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 อำนาจในการพยากรณ์ร้อยละ 13.6</p> 2023-12-27T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2023 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/270190 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาระบบฟาร์มอัจฉริยะในยุคดิจิทัล: แนวทางแอปพลิเคชันบนมือถือ 2023-12-04T09:58:40+07:00 วรางกูร อิศรางกูร ณ อยุธยา [email protected] <p>การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยของระบบการเกษตรอัจฉริยะสําหรับการเกษตรในยุคดิจิตอล ซึ่งมีการพัฒนาระบบที่มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี IoT ซึ่งสามารถใช้ในการส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลโดยอัตโนมัติด้วยการแสดงข้อมูลในเวลาจริงของเซ็นเซอร์ที่สามารถวัดได้และอุปกรณ์ควบคุมเพื่อควบคุมองค์ประกอบของสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของพืชด้วยสมาร์ทโฟนมือถือ การวิจัยนี้สามารถลดค่าใช้จ่ายและเวลาของพนักงาน ข้อมูลที่ได้รับจากการวัดจะถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลของผู้ใช้ข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมจากตัวอย่างทั้งหมด 400 ตัวอย่างของเกษตรกรในท้องถิ่น โดยการตรวจสอบอย่างละเอียดและตามความสะดวกของผู้ตอบสนอง การวิเคราะห์สถิติที่ใช้ในการศึกษานี้คือค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์ ความถี่ อัตราเปอร์เซ็นต์ ปกติกับสถิตการวิเคราะห์ที่เปรียบเทียบ</p> <p>ผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า โมเดลสถาปัตยกรรมของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาระบบการเกษตรอัจฉริยะสําหรับเกษตรกรในยุคดิจิตอลที่มีแอพพลิเคชั่นมือถือ เข้ากันได้ดีกับข้อมูลทางประสบการณ์ โมเดลนี้สอดคล้องกับข้อมูลทางประสบการณ์ด้วย Chi – Square = 59.966, df = 45, Sig. = 0.067 &gt; 0.05 และ CMIN/df. = 1.333 &lt; 3.0 ผลการวิเคราะห์จากการปรับตัวของรุ่นแสดงให้เห็นว่ามีความสม่ำเสมอและมีเกณฑ์ค่าสถิติที่สมบูรณ์</p> 2023-12-27T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2023 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/272461 การพัฒนาระบบสารสนเทศทางการบัญชีของธนาคารแยกขยะประกันชีวิต ชุมชนคุณธรรม วัดโคนอนมหาสวัสดิ์ จังหวัดนนทบุรี 2023-11-30T14:31:08+07:00 พรรณเพ็ญ สิทธิพัฒนา [email protected] เรวดี ศักดิ์ดุลยธรรม [email protected] <p>งานวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศทางการบัญชีของธนาคารแยกขยะประกันชีวิต ชุมชนคุณธรรม วัดโคนอนมหาสวัสดิ์ จังหวัดนนทบุรี ให้แก่คณะกรรมการโครงการฯ ที่สามารถจัดการข้อมูลสมาชิก ข้อมูลคลังขยะ ทำรายการรับซื้อและขายขยะของโครงการ รวมถึงเรียกดูรายงานรายรับรายจ่ายของโครงการได้อย่างถูกต้อง เริ่มจากศึกษาขั้นตอนการดำเนินงานจากเอกสารการทำงานเดิมและสัมภาษณ์คณะกรรมการโครงการ เพื่อกำหนดความต้องการของระบบงานใหม่และจัดทำเป็นข้อกำหนดความต้องการด้านความสามารถของด้านซอฟต์แวร์ (SRS) ขึ้น โดยนำความต้องการดังกล่าวมาวิเคราะห์และออกแบบระบบงานใหม่ด้วยแผนภาพบริบท แผนภาพกระแสข้อมูล และออกแบบฐานข้อมูลด้วยแบบจำลองความสัมพันธ์ของเอนทีตี หลังจากนั้นนำสิ่งที่วิเคราะห์และออกแบบไว้มาพัฒนาเป็นระบบสารสนเทศทางการบัญชีของธนาคารแยกขยะประกันชีวิตโดยใช้โปรแกรม MS Access ซึ่งระบบดังกล่าวผ่านการประเมินความสามารถของระบบโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่าระบบมีความสามารถที่เป็นไปตามข้อกำหนดความต้องการของระบบครบถ้วน และให้คณะกรรมการโครงการฯ จำนวน 3 คน ทดลองใช้ระบบสารสนเทศพร้อมประเมินความพึงพอใจ พบว่า มีความพึงพอใจในการใช้งานโดยรวม ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56 ซึ่งมีประเด็นด้านการนำไปใช้จริงที่มีผลการประเมินน้อยที่สุด เนื่องจากการออกแบบของหน้าจอที่รวมเมนูและข้อมูลต่าง ๆ ไว้ในหน้าเดียวกันมากเกินไป ส่งผลให้ผู้ใช้เกิดการใช้งานยาก รวมถึงการพิสูจน์ตัวตนด้วยรหัสผ่านที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ดังนั้นในอนาคตควรออกแบบหน้าจอของระบบให้เอื้อต่อการเข้าใจขั้นตอนการดำเนินงาน และเพิ่มฟังก์ชันการเปลี่ยนรหัสผ่านและกำหนดรหัสผ่านให้เป็นมาตรฐานมากขึ้น</p> 2023-12-27T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2023 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/272790 แนวทางการจัดการกองทุนหมู่บ้านของประชาชนในจังหวัดสุพรรณบุรี 2023-11-30T13:57:14+07:00 ศิริลักษณ์ มะณีรัตน์ [email protected] ณกมล จันทร์สม [email protected] <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการจัดการกองทุนหมู่บ้านของประชาชนในจังหวัดสุพรรณบุรี และเพื่อกำหนดแนวทางการจัดการกองทุนหมู่บ้านของประชาชนในจังหวัดสุพรรณบุรี การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ โดยใช้วงจรบริหารงานคุณภาพมาใช้ในการสร้างเครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก จากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้นำหมู่บ้าน และกรรมการกองทุนหมู่บ้าน จำนวน 15 คน การวิเคราะห์ข้อมูล คือ การวิเคราะห์ข้อมูลจากเนื้อหา และนำเสนอข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์ออกมาในรูปแบบการพรรณนา</p> <p>ผลการสัมภาษณ์เชิงลึก พบว่า ปัญหาสำคัญในการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้าน ประกอบด้วย 6 ประเด็น คือ 1) สมาชิกของกองทุนได้รับข่าวสารของกองทุนหมู่บ้านไม่ทั่วถึง 2) การจัดทำบัญชี และเอกสารเกิดความผิดพลาด 3) สมาชิกและคณะกรรมการขาดการเข้าร่วมประชุม 4) คณะกรรมการขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการกองทุนหมู่บ้าน 5) คณะกรรมการของกองทุนมีตำแหน่งอื่น ๆ ในหมู่บ้าน ทำให้ขาดประสิทธิภาพในการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้าน และ 6) คณะกรรมการได้รับความกดดันจากสมาชิกผู้เป็นเครือญาติในการขอรับสิทธิพิเศษในการกู้มากกว่าสมาชิกทั่วไป </p> <p>แนวทางการจัดการกองทุนหมู่บ้าน คือ 1) คณะกรรมการควรประชาสัมพันธ์ข่าวสารด้วยสื่อสังคมออนไลน์ 2) คณะกรรมการควรได้รับการอบรมจากกองทุนหมู่บ้านของระดับจังหวัด เช่น การทำบัญชี และทักษะคอมพิวเตอร์ 3) คณะกรรมการควรพยายามเข้าร่วมการประชุม และทำความเข้าใจเกี่ยวกับกองทุนหมู่บ้านให้ตรงกัน 4) คณะกรรมการควรสื่อสารกันมากยิ่งขึ้น 5) คณะกรรมการที่มีตำแหน่งอื่น ๆ ในชุมชน<br />ควรให้ความสำคัญกับการแบ่งเวลาให้สามารถดำเนินการกองทุนหมู่บ้านได้อย่างเต็มศักยภาพมากยิ่งขึ้น และ 6) คณะกรรมการควรปฏิบัติต่อสมาชิกของกองทุนหมู่บ้านอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน</p> 2023-12-29T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2023 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/272834 ปัจจัยสภาพแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อความเจริญก้าวหน้าทางอาชีพ ของผู้แทนเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 2023-11-30T15:11:20+07:00 สาธิดา พงศ์ธนอนันต์ [email protected] ณกมล จันทร์สม [email protected] <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความเจริญก้าวหน้าในอาชีพของผู้แทนเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ จำแนกตามปัจจัยทางประชากรศาสตร์ 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยแวดล้อมภายในองค์การกับความเจริญก้าวหน้าในอาชีพของผู้แทนเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยแวดล้อมภายนอกองค์การกับความเจริญก้าวหน้าในอาชีพของผู้แทนเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้แทนเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ทำงานอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 385 คน ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบอาศัยความน่าจะเป็นแบบชั้นภูมิ ด้วยการแบ่งสัดส่วนกลุ่มตัวอย่างตามพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี และสมุทรปราการ จังหวัดละ 77 ตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ปัจจัยแวดล้อมภายในองค์การ ได้แก่ ด้านผลตอบแทน ด้านโอกาสในการเลื่อนขั้น ด้านโอกาสในการเรียนรู้พัฒนาความสามารถ ด้านความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา ด้านความสัมพันธ์กับผู้ร่วมงาน และด้านสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน ส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าในอาชีพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) ปัจจัยแวดล้อมภายนอกองค์การ ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านเทคโนโลยี และด้านนโยบายและการเมือง ส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าในอาชีพของผู้แทนเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05</p> 2023-12-31T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2023 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/271589 การฟื้นฟูและพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองรองของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2: ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 2023-11-15T15:10:48+07:00 สุพรรษา อ่ำทิม [email protected] พงศ์สัณห์ ศรีสมทรัพย์ [email protected] พฤทธิ์สรรค์ สุทธิไชยเมธี [email protected] <p>อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นและเป็นแหล่งรายได้และเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการลดลงของรายได้ในอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการอันเป็นผลพวงมาจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งการใช้มาตรการและนโยบายในการควบคุมและจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เข้มแข็งยังส่งกระทบเชิงลบอย่างมหาศาลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมหรือข้างเคียง ดังนั้นภายหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 รัฐบาลจึงได้ทำการศึกษาและทบทวนผลกระทบดังกล่าว เพื่อใช้มาตรการและนโยบายให้ความช่วยเหลือในมิติต่าง ๆ เพื่อทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมฟื้นตัว พร้อมทั้งทำการเปิดประเทศและยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดดังกล่าว ทำให้ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะดีขึ้นภายหลังการแพร่ระบาด</p> <p>อย่างไรก็ตาม การกระจุกตัวของรายได้ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะอยู่ในเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และภูเก็ต เป็นต้น ยังเป็นประเด็นสำคัญที่ภาครัฐให้ความสำคัญในการแก้ไขและจัดการปัญหาดังกล่าว เพื่อกระจายรายได้ไปยังกลุ่มจังหวัดเมืองรอง เพื่อขยายโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำและช่องว่างของรายได้ สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ด้วยการกำหนดแผนยุทธ์ศาสตร์การท่องเที่ยวหลายฉบับ โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดภาคเหนือต่าง 2 ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดพิจิตร และจังหวัดอุทัยธานีที่มีศักยภาพและอัตลักษณ์เฉพาะตัวของแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงทำเลที่ตั้งที่สามารถเชื่อมโยงการค้าการลงทุนและเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน</p> 2023-12-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2023 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น