https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/issue/feed วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น 2024-04-30T16:39:24+07:00 ดร.กฤษดา เชียรวัฒนสุข Krisada.dba@gmail.com Open Journal Systems <p>วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น จัดทำในรูปแบบวารสารวิชาการที่เผยแพร่เป็นราย 4 เดือน มีการเปิดรับบทความเพื่อเข้ารับการพิจารณา ได้แก่ บทความวิจัย (Research Article) บทความวิชาการ (Academic Article) บทความปริทรรศน์หรือบทวิจารณ์วรรณกรรม (Review Article) บทวิจารณ์หนังสือ (Book Review)</p> https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/277518 กฎหมายแรงงานสำหรับนักบริหาร (พิมพ์ครั้งที่ 17) 2024-04-30T16:39:24+07:00 ปวริศ อนุสรณ์พานิช pawaris.anusornphanich@gmail.com จิตมาส กลิ่นสุคนธ์ pawaris.anusornphanich@gmail.com <p>หนังสือกฎหมายแรงงานสำหรับนักบริหาร เรียบเรียงขึ้นเพื่อรวบรวมสาระสำคัญทางด้านกฎหมายแรงงานในส่วนที่นายจ้างและลูกจ้างควรทราบ โดยการรวบรวมข้อกฎหมายแรงงานที่สำคัญและพบบ่อยในสถานประกอบการเกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างทางกฎหมาย นำเสนอด้วยวิธีการพรรณนาเรียบเรียงด้วยการใช้ภาษาที่เข้าใจได้ง่าย พร้อมยกตัวอย่างสรุปข้อกฎหมายและฎีกาที่สำคัญ ด้วยเหตุที่ตัวบทกฎหมายแรงงานมีหลายฉบับและต้องใช้เวลาอย่างมากในการศึกษาค้นคว้า หนังสือเล่มนี้จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีความสนใจแต่ไม่มีเวลามากพอ สามารถใช้เพื่อการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมทางด้านกฎหมายแรงงาน</p> 2024-04-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/274844 การเรียนรู้แบบองค์รวมของแรงงานระดับช่างเทคนิคในอุตสาหกรรมยานยนต์ และการรับรู้การสนับสนุนจากองค์กรต่อประสิทธิภาพการทำงาน และมีการรับรู้การสนับสนุนจากองค์กรเป็นตัวแปรกำกับ 2024-03-20T20:50:18+07:00 ธีทัต ตรีศิริโชติ teetut_t@rmutt.ac.th <p>การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเรียนรู้แบบองค์รวมของแรงงานระดับช่างเทคนิคในอุตสาหกรรมยานยนต์ การรับรู้การสนับสนุนจากองค์กร และประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อวิเคราะห์การเรียนรู้แบบองค์รวมของแรงงานระดับช่างเทคนิคในอุตสาหกรรมยานยนต์และการรับรู้การสนับสนุนจากองค์กรต่อประสิทธิภาพการทำงาน และเพื่อตรวจสอบอิทธิพลความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยการเรียนรู้แบบองค์รวมและการรับรู้การสนับสนุนจากองค์กรที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและมีการรับรู้การสนับสนุนจากองค์กรเป็นตัวแปรกำกับ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแรงงานระดับช่างเทคนิคที่ปฏิบัติงานในสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ภายในจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา จำนวน 400 ตัวอย่าง โดยกำหนดรูปแบบการศึกษาเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ และใช้แบบสอบถาม ในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ การทดสอบสมมติฐานนั้นใช้การวิเคราะห์โดยใช้ วิธี สมการโครงสร้างแบบกำลังสองน้อยที่สุดบางส่วน วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของตัวแปรแฝงและตัวแปรสังเกตได้เป็นแบบ Reflective โดยสถิติที่ใช้เป็นไปตามเกณฑ์การวัดแบบจำลองภายนอกหรือแบบจำลองการวัด และเกณฑ์การวัดแบบจำลองภายในหรือโมเดลโครงสร้าง</p> <p>ผลการวิเคราะห์แบบจำลองโครงสร้าง พบว่า การเรียนรู้แบบองค์รวมของแรงงานระดับช่างเทคนิคในอุตสาหกรรมยานยนต์มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานมีค่าเท่ากับ 0.7238 มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ P &lt; .01 การรับรู้การสนับสนุนจากองค์กรมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานมีค่าเท่ากับ 0.1416 มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ P &lt; .01 และการเรียนรู้แบบองค์รวมของแรงงานระดับช่างเทคนิคในอุตสาหกรรมยานยนต์มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและมีการรับรู้การสนับสนุนจากองค์กรเป็นตัวแปรกำกับมีค่าเท่ากับ 0.0967 มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ P &lt; .01</p> 2024-04-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/275813 ปัจจัยเชิงสาเหตุในการดำเนินกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมที่ส่งผลต่อ ภาพลักษณ์องค์การและผลการดำเนินงานที่ยั่งยืนของผู้ผลิตน้ำดื่ม ในประเทศไทยบนพื้นฐานมุมมองลูกค้า 2024-03-20T22:38:42+07:00 เกียรติศักดิ์ เอี่ยมพุทธรักษ์ kiatisak.mpa@gmail.com ณฐนนท ทวีสิน kiatisak.mpa@gmail.com <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการดำเนินกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ขององค์การและผลการดำเนินงานที่ยั่งยืนของผู้ผลิตน้ำดื่มในประเทศไทย และ 2) เพื่อศึกษาภาพลักษณ์ขององค์การที่มีอิทธิพลคั่นกลางระหว่างการดำเนินกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมและผลการดำเนินงานที่ยั่งยืนของผู้ผลิตน้ำดื่มในประเทศไทย เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ ลูกค้าชาวไทยที่บริโภคน้ำดื่มบริสุทธิ์และน้ำแร่บรรจุขวดแบรนด์ต่าง ๆ ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบตามสะดวก โดยกลุ่มตัวอย่างมีจำนวนทั้งสิ้น 165 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วยแบบจำลองสมการโครงสร้างแบบเส้นทางกำลังสองน้อยที่สุดบางส่วน</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า การดำเนินกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมส่งผลทางตรงต่อภาพลักษณ์ขององค์การของผู้ผลิตน้ำดื่มในประเทศไทย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .000 แต่การดำเนินกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมไม่ส่งผลทางตรงต่อผลการดำเนินงานที่ยั่งยืนของผู้ผลิตน้ำดื่มในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อย่างไรก็ตาม การดำเนินกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมส่งผลต่อผลการดำเนินงานที่ยั่งยืนของผู้ผลิตน้ำดื่มในประเทศไทย โดยผ่านภาพลักษณ์องค์การ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .000 โดยมีอำนาจในการพยากรณ์ร้อยละ 81.2 ดังนั้น ผู้ผลิตน้ำดื่มในประเทศไทยควรมีการสร้างนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม สร้างโปรแกรมการอบรมที่เน้นการรับผิดชอบสังคมและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างระบบการควบคุมคุณภาพ สนับสนุนโครงการและกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม และสร้างแผนการสื่อสารภาพลักษณ์ขององค์กร</p> 2024-04-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/268019 การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า ในยุควิถีชีวิตใหม่ 2024-03-27T09:52:23+07:00 ภูริณัฐ ยมกนิษฐ์ purinat_y@mail.rmutt.ac.th รุจิกาญจน์ สานนท์ rung_ja@hotmail.com สินิทรา สุขสวัสดิ์ sinittra_s@rmutt.ac.th <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ 2) ศึกษากระบวนการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ในยุควิถีชีวิตใหม่ 3) วิเคราะห์รูปแบบการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการในยุควิถีชีวิตใหม่ที่ส่งผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ประชาชนในจังหวัดปทุมธานีที่เคยซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์อย่างน้อย 1 ครั้งในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา จำนวน 400 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ผลการศึกษาใช้สถิติเชิงพรรณนาเพื่ออธิบายผลการศึกษา ได้แก่ การแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับการทดสอบสมมติฐาน คือ การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการในยุควิถีชีวิตใหม่ ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ระดับความคิดเห็นมากที่สุด คือ การประชาสัมพันธ์ กระบวนการตัดสินใจเลือกซื้อซื้อสินค้าในยุควิถีชีวิตใหม่ ภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ระดับความคิดเห็นมากที่สุดเท่ากัน คือ ด้านการรับรู้ปัญหาหรือความต้องการ และด้านพฤติกรรมหลังการซื้อ ส่วนผลการทดสอบสมมติฐานรูปแบบการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าในยุควิถีชีวิตใหม่ พบว่า รูปแบบการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ ด้านเครื่องมือทางการตลาดดิจิทัลมีผลมากที่สุด ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05</p> 2024-04-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/272669 การวิเคราะห์หลักทรัพย์ของบริษัท XX จำกัด (มหาชน) 2024-03-26T15:29:12+07:00 ธฤตพน อู่สวัสดิ์ thitapon_ous@utcc.ac.th ณัฐวัฒน์ วิจิตรานุช paletntw@hotmail.com <p>การศึกษาการวิเคราะห์หลักทรัพย์ของ บริษัท XX จำกัด (มหาชน) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทฯ โดยเริ่มจากการศึกษาตัวแปรที่มีผลต่อรายได้ของบริษัท เพื่อนำการพยากรณ์รายได้บริษัทมาใช้ประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทฯ โดยตัวแปรที่นำมาศึกษา ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาน้ำมันดิบ ดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และ อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) โดยใช้ข้อมูลแบบข้อมูลทุติยภูมิเป็นรายไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2556 สิ้นสุดไตรมาสที่ 4 พ.ศ. 2565 โดยวิธีการสร้างสมการถดถอยพหุคูณ ด้วยวิธีกำลังสองน้อยที่สุด</p> <p>จากการศึกษาพบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อรายได้รวมของบริษัท XX จำกัด (มหาชน) ที่มีระดับนัยสำคัญ 0.05 ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)และ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีม (MLR) <br />ซึ่งมีทิศทางความสัมพันธ์เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้โดยมีทิศทางเดียวกันกับผลการวิจัย ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ราคาน้ำมันดิบ ดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ไม่ส่งผลต่อรายได้ของบริษัท และจากการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัท XX จำกัด(มหาชน) คือ วิธีการคิดลดกระแสเงินสด โดยใช้กระแสเงินสดกิจการได้มูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เท่ากับ 19.03 บาทต่อหุ้น</p> 2024-04-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น https://so03.tci-thaijo.org/index.php/prn/article/view/270456 ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการแอปพลิเคชันส่งอาหารเดลิเวอรี่ ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเขตหนองจอก 2023-11-08T10:06:39+07:00 ทรงศักดิ์ วิจัยธรรมฤทธิ์ atsavin555@hotmail.com ณัฐกาญจน์ สุวรรณธารา atsavin555@hotmail.com ศศิธร ง้วนพันธ์ atsavin555@hotmail.com วรางคณา ตันสกุล atsavin555@hotmail.com <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการเลือกใช้บริการแอปพลิเคชันส่งอาหารเดลิเวอรี่ของผู้ใช้บริการเขตหนองจอก การวิจัยมีรูปแบบเป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ โดยทำการสำรวจโดยใช้แบบสอบถาม จำนวน 400 ชุด จากการหาขนาดกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธี Cochran ที่ระดับความคลาดเคลื่อนร้อยละ 0.05 และใช้วิธีการสุ่มแบบสะดวก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุ</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน 285 คน คิดเป็นร้อยละ 71.25 อายุระหว่าง 18 – 25 ปี จำนวน 310 คน คิดเป็นร้อยละ 77.50 และผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และด้านการส่งเสริมการตลาดส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการแอปพลิเคชันส่งอาหารเดลิเวอรี่ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เขตหนองจอก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .000 – .034</p> 2024-04-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิชาการสังคมศาสตร์เครือข่ายวิจัยประชาชื่น