การบวชเป็นศาสนทายาทในพุทธศาสนาแบบเถรวาท
คำสำคัญ:
การบวช ศาสนทายาท พุทธศาสนา เถรวาทบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาพัฒนาการของการบวชในพระพุทธศาสนาแบบเถรวาทจากอดีตจนถึงปัจจุบัน 2) เพื่อศึกษารูปแบบและเหตุผลของการบวชเป็นศาสนทายาทในพุทธศาสนาแบบเถรวาทจากอดีตถึงปัจจุบัน โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) มีการเก็บข้อมูลทั้งแบบการสังเกต การสัมภาษณ์แบบมีและไม่ส่วนร่วม ผลการวิจัยพบว่า พระบรมไตรโลกนาถทรงสร้างการยอมรับในพระพุทธศาสนาให้กับประชาชนด้วยการ ผนวชและทรงให้พระราชโอรสกับพระราชนัดดาผนวชซึ่งกลายเป็นการเริ่มต้นของประเพณีการบวชเรียนของเจ้านาย ข้าราชการ ชาวบ้านในเวลาต่อมา ขณะเดียวกัน การบวชยังกลายเป็น “ช่องทาง” ลดความเลื่อมล้้าทางสังคม เช่น บวชเรียน บวชหนีการสักเลข เป็นต้น อีกทั้งชาวพุทธยังมีกรอบคิดที่เป็นความเชื่อเกี่ยวกับบุญและบาปว่า การบวชเป็นการสร้างบุญ เพื่อน้าไปหักล้างกับบาป ซึ่งความเชื่อดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการบวชในรูปแบบต่างๆ เช่น บวชหน้าไฟ บวชแก้บน เป็นต้น
เอกสารอ้างอิง
Chamlerng Vuttichan. (2525). Personal Research Paper: Sangha and Religious Affairs for National Security. Bangkok: Religious Affaires Printing House.
Kwan Kaew Wachotai. (2515). Royal Ceremony and Royal Duties During Ordination. Bangkok: Mahamakutrajavithayalaya Printing.
Phradepveti (Prayut Payutto). (2536). Buddhism Situation: Changing Crisis to Development. Bangkok: Religious Affaires Printing.
Phradhamapidok (Prayut Payutto). (2540). Buddhism in Asia.Bangkok: Dhammasapa.
Phrasoponkanaporn (Rabab Tiiyano). (2530). History of Buddhism: Buddhism in India, Sangha Institution, The Outstanding Point in Buddhism. Bangkok: Religious Affaires Printing House.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

