การพัฒนาการจัดการความรู้เชิงพุทธเพื่อการบริหาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในเขตภาคเหนือตอนบน

ผู้แต่ง

  • นพดณ ปัญญาวีรทั

คำสำคัญ:

การพัฒนา, การจัดการความรู้, เชิงพุทธ

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปของการจัดการความรู้ของ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในเขตภาคเหนือตอนบน 2) เพื่อวิเคราะห์กระบวนการการ
จัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในเขตภาคเหนือตอนบน และ 3) เพื่อเสนอ
รูปแบบการพัฒนาการจัดการความรู้เชิงพุทธเพื่อการบริหารของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช-
วิทยาลัย ในเขตภาคเหนือตอนบน

ผลการวิจัยพบว่า
1) สภาพทั่วไปของการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในเขต
ภาคเหนือตอนบน มีการใช้หลักการวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมและวงจรควบคุมคุณภาพเดมมิ่ง
เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและความสาเร็จด้านการพัฒนาการจัดการความรู้ ซึ่งขึ้นอยู่กับ
หลักการบริหารงานแบบมีส่วนร่วม และเป็นแนวทางในการพัฒนาการจัดการความรู้ โดยมหาวิทยาลัย
ใช้กระบวนการจัดการความรู้ 7 ประการ ประกอบด้วย 1) การบ่งชี้ความรู้ 2) การสร้างและแสวงหาความรู้
3) การจัดความรู้ให้เป็นระบบ 4) การประมวลและกลั่นกรองความรู้ 5) การเข้าถึงความรู้ 6) การแบ่งปัน
แลกเปลี่ยนความรู้ 7) การเรียนรู้ ส่วนการนาหลักพุทธธรรมมาปรับใช้กับกระบวนการจัดการความรู้มี
การนาหลักธรรมเข้ามาใช้อย่างหลากหลาย เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรค และสนับสนุนแนวทางในการ
พัฒนาการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัย
2) ความคิดเห็นต่อการพัฒนาการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัย มีค่าเฉลี่ยโดยรวม 3.61
อยู่ในระดับมาก ส่วนระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารองค์กรเพื่อพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้
โดยรวม มีค่าเฉลี่ยโดยรวม 3.58 อยู่ในระดับมาก ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยและการบริหาร
องค์กรเพื่อพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้พบว่ามีปัจจัย 4 ด้านที่มีความสัมพันธ์กันสูง เรียงตามลาดับ
คือ ปัจจัยด้านการเรียนรู้ ปัจจัยด้านการเข้าถึงความรู้ ปัจจัยด้านการสร้างและแสวงหาความรู้ และปัจจัย
ด้านการแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้
3) รูปแบบการพัฒนาการจัดการความรู้เชิงพุทธเพื่อการบริหารของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง
กรณราชวิทยาลัยในเขตภาคเหนือตอนบน พบว่า การพัฒนาการจัดการความรู้มีกระบวนการ 4 ด้าน ที่
โดดเด่น คือ 1) กระบวนการสร้างและแสวงหาความรู้ ด้วยหลักปรโตโฆสะและวุฒิธรรม 4
2) กระบวนการการเข้าถึงความรู้ ด้วยหลักจักร 4 3) กระบวนการแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ ด้วยหลัก
กัลยาณมิตร 7 และ 4) กระบวนการการเรียนรู้ ตามหลักไตรสิกขา ปัจจัยทั้ง 4 เป็นส่วนสาคัญต่อการ
พัฒนาการจัดการความของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในเขตภาคเหนือตอนบน

References

Chalongrath Intree (2007). The Development of Knowledge Management. Faculty of
Nurse Ratchathani University (Doctor of Thesis). Administration and
Development Studies. Graduate School: Mahasarakham University.
Chinnawat Satsananan. (2013).Effectiveness of Knowledge Management in Rajabhat
Universities in Thailand. Thesis Postdoctoral Philosophy Department of
Management. Graduate School: Siam University.
Chumsak Intarak. (2009). Promoting and Developing Innovative Teaching Network
of Teachers and Educational Personnel to Improve the Quality of
Learners (Research Report). Faculty of Education: Prince of Songkla
University.
M. Alavi. and D.E.Leidner.(2001), Review: Knowledge Management and Knowledge
Management System : Conceptual Foundations and Research Lssues.
Mis Quarterly. Vol.27 January.
Nualla-Or Saengsuk. (2007). A Study of Knowledge Management of Ramkhamhaeng
University (Doctor of Thesis). Graduate School: Ramkhamhaeng University.
Orrasa Kaewsarathee. (2011). Development of Indicators of Organizational Learning
of Basic Education Institutions Under Local Administration (Doctor of
Philosophy Thesis). Educational Administration. Graduate School:
Valaya Alongkorn Rajabhat University.
Wichan Panij. (2006). Knowledge Management Practitioner Edition. 3rd edition.
Bangkok: The Subhaphapjai Press.
Woradach Chantason. (2003).Knowledge Management: A Quality Cycle. Bangkok:
The Phaphpim Company.

เผยแพร่แล้ว

2018-12-22

How to Cite

ปัญญาวีรทั น. (2018). การพัฒนาการจัดการความรู้เชิงพุทธเพื่อการบริหาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในเขตภาคเหนือตอนบน. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 7(4), 52–64. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jssr/article/view/161898