การรับรู้ตราสินค้าและส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อกระบวนการ การตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงของกลุ่มเจเนอเรชั่นวาย
คำสำคัญ:
การรับรู้ตราสินค้า, ส่วนประสมทางการตลาด, การตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาเปรียบเทียบกระบวนการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงของกลุ่มเจเนอเรชั่นวายตามปัจจัยส่วนบุคคล (2) ศึกษาอิทธิพลของการรับรู้ตราสินค้า และ (3) ศึกษาส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อดังกล่าว กลุ่มตัวอย่างคือประชากรเพศหญิงกลุ่มเจเนอเรชั่นวาย (เกิด พ.ศ. 2523-2539) ที่เคยซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นจำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.924 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีระดับการศึกษาและอาชีพแตกต่างกัน มีกระบวนการตัดสินใจซื้อแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 การรับรู้ตราสินค้าในด้านความภักดีต่อตราสินค้า ด้านการรับรู้คุณภาพ และด้านสินทรัพย์อื่น ๆ ส่งผลทางบวกต่อกระบวนการตัดสินใจซื้ออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยร่วมกันพยากรณ์ได้ร้อยละ 52.4 ส่วนประสมทางการตลาดในด้านราคา ด้านการส่งเสริมการตลาด และด้านกระบวนการส่งผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้ออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยด้านกระบวนการมีอิทธิพลสูงสุด (beta = 0.444) และร่วมกันพยากรณ์ได้ร้อยละ 61.8 ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับระบบการสั่งซื้อที่รวดเร็วและการสร้างความภักดีต่อแบรนด์เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของกลุ่มเจเนอเรชั่นวาย
ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีระดับการศึกษาปริญญาตรี มีสถานภาพโสด ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัท และ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 15,000 - 30,000 ความคิดเห็นเกี่ยวกับการรับรู้ตราสินค้า ส่วนประสมทางการตลาด และ กระบวนการการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงของกลุ่มเจเนอเรชั่นวาย อยู่ในระดับมาก ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดับการศึกษา และ อาชีพต่างกัน จะมีการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 การรับรู้ตราสินค้า ประกอบด้วยด้านความภักดีในตราสินค้า ด้านการรับรู้ถึงคุณภาพของสินค้า และ ด้านสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงของกลุ่มเจเนอเรชั่นวายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ ส่วนประสมทางการตลาด ประกอบด้วยด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และ ด้านกระบวนการ ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงของกลุ่มเจเนอเรชั่นวาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
เอกสารอ้างอิง
ชนากานต์ วิรุฬห์ชัยโชติ.(2565).ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าประเภทเสื้อผ้าแฟชั่นของคน Generation Y ผ่านช่องทาง Facebook Live. บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
ณัฐวดี อุณยะวงศ์. (2559). พฤติกรรมผู้บริโภค. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธนัตถ์ สุกมลพาณิชย์.(2562).การรับรู้ตราสินค้าและความภักดี ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อฟุตบอลทีมชาติไทยของแฟนบอลชาวไทย. วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นันทพร เขียนดวงจันทร์.(2561).พฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อสินค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของคนในกลุ่มเจเนเรชั่นวาย. Veridian E-Journal, Silpakorn University,11(1). 561-577. https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Veridian-E-Journal/article/view/118620/90938
ปฏิพาร์ เพชรศิริ.(2560).ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าในเขตตลาดโบ๊เบ๊ของธุรกิจค้าปลีก. บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร.
พงศกร พฤกษ์ไพรผดุง.(2560).ส่วนประสมทางการตลาด ความไว้วางใจ และการสื่อสารแบบปากต่อปากบนอินเทอร์เน็ตที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านอินสตาแกรมของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร. บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
พิจิตรจันทร์ หวังไพบูลย์กิจ.(2559).การรับรู้คุณค่าสินค้า ทัศนคติต่อตราสินค้า และความชื่นชอบในตราสินค้า กับความตั้งใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นรวดเร็ว.บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย.
ภาวิณี กาญจนาภา.(2559).พฤติกรรมผู้บริโภค. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มนต์ชัย วาดไธสง.(2564).ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าของ Gen Y และ Gen Z ในกรุงเทพมหานคร. วารสารโครงการทวิปริญญาทางรัฐประศาสนศาสตร์และบริหารธุรกิจ, 1(1),1-9.
ศรัญญา รักษาศรี.(2564).คุณค่าตราสินค้าที่มีผลต่อความตั้งใจซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ยูนิโคล่ของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร. บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒน์.
อามานี ชุมศรี และ ฉันทนา ปาปัดถา.(2564).ส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของสตรีมุสลิมในกรุงเทพมหานคร. วารสารบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยแม่โจ้,3(2),74-94. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/MJBA/article/view/250324/172856
Aaker, D.A. (1991).Managing Brand Equity: Capitalizing on the Value of a Brand Name. New York : The Free Press.
Booms, B. H., & Bitner, M. J. (1981). Marketing strategies and organizational structures for service firms. In J. H. Donnelly & W. R. George (Eds.), Marketing of services (pp. 47–51). American Marketing Association.
Cochran, W. G. (1977). Sampling techniques (3rd ed.). John Wiley & Sons.
Engel, J. F., Blackwell, R. D., & Miniard, P. W. (2006). Consumer behavior. 10th ed. Mason, Ohio : Thomson/ South-Western.
Kotler, P.(2017). Marketing 4.0: Moving from traditional to digital. John Wiley & Sons, Inc.
Kotler, P.(1984). Marketing management: Analysis, planning, and control (5th ed.). Prentice-Hall.
Keller, K. L. (1993). Conceptualizing, measuring, and managing customer-based brand equity. Journal of Marketing, 57(1), 1–22. https://doi.org/10.1177/002224299305700101
Likert, R. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale in Attitude Theory and Measurement. New York : Wiley & Son.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์