การจัดการภาครัฐแนวใหม่และคุณภาพการบริการที่ส่งผลต่อประสิทธิผล ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกลุ่มภาคกลางตอนบน 1
คำสำคัญ:
การจัดการภาครัฐแนวใหม่, คุณภาพการบริการ, ประสิทธิผลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับประสิทธิผลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกลุ่มภาคกลางตอนบน 1 (2) วิเคราะห์การจัดการภาครัฐแนวใหม่ คุณภาพการบริการ ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกลุ่มภาคกลางตอนบน 1 และ 3) เสนอแนวทางการพัฒนาประสิทธิผลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกลุ่มภาคกลางตอนบน 1 เป็นวิจัยแบบผสมวิธี กรอบแนวคิดใช้แนวคิดและทฤษฎีของ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 พ.ศ. 2550 - 2554 และ Parasuraman and other และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ปลัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ในกลุ่มภาคกลางตอนบน 1 จำนวน 378 คน การเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยเลือกแบบเจาะจง ได้จำนวน 195 คน สัมภาษณ์นายกและปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน 1 จำนวน 15 ท่าน เครื่องมือได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ นำไปหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามได้ .95 และนำข้อมูลคุณภาพมาวิเคราะห์สรุปความตามเนื้อหา สถิติที่ใช้ได้แก่ แจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ
ผลการวิจัยพบว่า
- ระดับประสิทธิผลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกลุ่มภาคกลางตอนบน 1 ภาพรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย ดังนี้ การนำองค์การ การมุ่งเน้นทรัพยากรบุคคล ผลลัพธ์การดำเนินการ การวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ การจัดการกระบวนการ การให้ความสำคัญกับผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตามลำดับ
- วิเคราะห์การจัดการภาครัฐแนวใหม่ คุณภาพการบริการ ที่ส่งผลต่อประสิทธิผลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกลุ่มภาคกลางตอนบน 1 พบว่า ปัจจัย 5 ด้านได้แก่ ด้านการลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ด้านการประเมินผลการปฏิบัติงานราชการ ด้านการให้ความเชื่อมั่นต่อผู้รับบริการ ด้านความเป็นรูปธรรมของบริการ ด้านการตอบสนองต่อผู้มารับบริการ ส่งผลต่อประสิทธิผลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกลุ่มภาคกลางตอนบน 1 ได้ร้อยละ 13.90 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- 3. แนวทางการพัฒนาประสิทธิผลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกลุ่มภาคกลางตอนบน 1 ต้องดำเนินการดังนี้ ด้านการประเมินผลการปฏิบัติงานราชการ องค์กรมีการจัดประเมินผลจากความพึงพอใจของประชาชน จากด้านการให้ความเชื่อมั่นต่อผู้รับบริการ โดยองค์กรมีการจัดเปิดเบอร์โทรศัพท์ สำหรับรับเรื่องร้องเรียน แจ้งปัญหาต่างๆ หรือขอความช่วยเหลือ ได้ตลอดเวลา ส่วนในด้านความเป็นรูปธรรมของบริการ องค์กรจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการบริการหรือป้ายบอกจุดบริการต่างๆ ให้ชัดเจนต่อผู้มาใช้บริการ และด้านการตอบสนองต่อผู้มารับบริการ ผู้ใช้บริการได้รับการดูแลเอาใจใส่และตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี
References
กรรณิกา ทองคำ. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างการดูแลควบคุมแนวใหม่กับการบริหารเครือข่ายของวิทยาลัยในหน่วยงานมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา. วารสารวิจัยอีกครั้งและนวัตกรรมท้องถิ่น. 6(5), 29–41.
กิตติชยั รุจิราวนิิจฉยั. (2558).การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจดัการงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์. 5(2), 22-35.
จุไรรัตน์ จุลจักรวัฒน์. (2547). ความคิดเห็นในการปฏิบัติราชการของข้าราชการไทยกับการจัดการภาครัฐแนวใหม่. วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ฉงจิ่ง หลี่. (2556). คุณภาพการบริการของบริษัทนำเที่ยวประเทศจีนที่มีผลต่อความความไว้วางใจในบริษัทนำเที่ยวและความตั้งใจในการใช้บริการซ้ำของนักท่องเที่ยวชาวไทย. การศึกษาเฉพาะบุคคล (บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
ชาญชัย จิตรเหล่าอาพร. (2552). การบริหารจัดการงานท้องถิ่น. กรุงเทพฯ: สมาคมรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ทศพร ศิริสัมพันธ์. (2549). ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการบริหารราชการแนวใหม่. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร).
ทวีสิฏฐ์ บุญญาภิบาล. (2556). เส้นทางการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐของกรมปศุสัตว์สู่ความเป็นเลิศด้านกระบวนการคุณภาพและนวัตกรรม. กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร, กรมปศุสัตว์
เบญจมาภรณ์ ภิญโญพรพาณิชย์. (2556). รายงานการวิจัยเรื่อง การวิเคราะห์ยุทธศาสตร์การสื่อสารสาธารณะกรมควบคุมโรค ตามกรอบการพัฒนาคุณภาพบริหารจัดการภาครัฐ. กรุงเทพมหานคร: กรมควบคุมโรค, กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร.
ปัณณพงศ์ ท้าวอาจ. (2556). ศึกษาสภาพและแนวทางการดำเนินการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสุโขทัย. การศึกษาส่วนบุคคลพัฒนานักบริหารระดับสูง กระทรวงศึกษาธิการ (นบส.ศธ.) รุ่นที่ 3, กรุงเทพมหานคร: สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา.
ปิยณัฐ จันทร์เกิด. (2560). คุณภาพการให้บริการของเทศบาลนครนครสวรรค์ตามการรับรู้ของประชาชน. วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
พรรณพร พงษ์สามารถ. (2552). แนวทางการพัฒนาองค์การตามเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ กรณีศึกษา กรมการค้าภายใน. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
พัชราวลัย ศุภภะ. (2562). นโยบายสาธารณะและการวางแผนเพื่อการจัดการองค์การภาครัฐ. พิมพ์ครั้งที่ 1. พระนครศรีอยุธยา: จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย.
พัชรินทร์ พลเยี่ยม. (2549). การพัฒนาคุณภาพการบริหารมหาวิทยาลัยมหาสารคามตามนโยบายปฏิรูประบบราชการ. การศึกษาค้นคว้าอิสระรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ไพฑูรย์ คุ้มคง. (2557). ความคิดเห็นของประชาชนต่อคุณภาพการให้บริการของเทศบาลตำบลนายายอาม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี. วิทยานิพนธ์หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการจัดการภาครัฐและเอกชน, วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ, มหาวิทยาลัยบูรพา.
วิวิศนา ทับทิม และคณะ. (2556). คุณภาพการให้บริการของเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้เทศบาลเมืองอรัญญิก จังหวัดพิษณุโลก. Journal of Graduate School, Pibulsongkram Rajabhat University. 7(1): 90-98.
สุพจน์ทรายแกว้. (2545). การจัดการภาครัฐแนวใหม่. พิมพ์ครั้งที่2. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงคมนาคม. (2561). คู่มือปฏิบัติงาน. กระบวนงาน การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม (PMQA). กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
Cronbach, L. J. (1970). Essentials of Psychological Test. (5thed.). New York: Harper Collins.
John W. Best. (1981). Research in Education, 4 th ed. New Jersey : Prentice –Hall Inc., 1981, p. 182.
Merilee S. Grindle. (2007). Good enough governance revisited: Poverty reduction and reform in developing countries, Development Policy Review. 25(5): 553-574
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์