รูปแบบการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
คำสำคัญ:
การบริหารงานบุคคล , ประสิทธิผล, สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สร้างรูปแบบการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และประเมินรูปแบบการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 205 คน เครื่องมือเป็นแบบสอบถามสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ มีค่าความเชื่อมั่น 0.95 และ 0.95 ตามลำดับ วิเคราะห์หาค่าเฉลี่ยและค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ตอนที่ 2 การสร้างรูปแบบการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดสนทนากลุ่มโดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน เครื่องมือคือร่างรูปแบบและเอกสาร และตอนที่ 3 การประเมินรูปแบบการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประเมินความเหมาะสมโดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน เครื่องมือเป็นแบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบ ประเมินความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 35 คน เครื่องมือเป็นแบบประเมินความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ วิเคราะห์
หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ โดยรวมอยู่ในระดับมากทั้ง 2 และมีความต้องการจำเป็นในด้านการสรรหาและการคัดเลือก ด้านการพัฒนาบุคลากร และด้านการประเมินผลการปฏิบัติงาน 2) รูปแบบการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 5 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์ สาระสำคัญ ประกอบด้วย (1) การสรรหาและการคัดเลือก (2) การกฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร 5) โครงสร้างภาษีอากร และ 6) การนำนวัตกรรมระบบการจัดเก็บภาษีอากรค้างมาใช้พัฒนาบุคลากร และ (3) การประเมินผลการปฏิบัติงาน การนำสู่การปฏิบัติ และเงื่อนไขความสำเร็จด้านการพัฒนาบุคลากร และด้านการประเมินผลการปฏิบัติงาน 2) รูปแบบการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 5 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์ สาระสำคัญ ประกอบด้วย (1) การสรรหาและการคัดเลือก (2) การพัฒนาบุคลากร และ (3) การประเมินผลการปฏิบัติงาน การนำสู่การปฏิบัติ และเงื่อนไขความสำเร็จ และ 3) รูปแบบการบริหาร งานบุคคลที่มีประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากและมีความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด
References
คมสัน อยู่เป็นสุข, โยธิน ศรีโสภา และจิตติรัตน์ แสงเลิศอุทัย. (2560). รูปแบบการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เชิงกลยุทธของสถานศึกษาอาชีวศึกษาเอกชน. วารสารวิจัยและพัฒนาหลักสูตร, 7(2), 201-214.
ชูศักดิ์ เที่ยงตรง. (2549). การบริหารงานบุคคล. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ดัชนีย์ จะวรรณะ. (2557). การพัฒนาวิชาชีพครูอาชีวศึกษา ในยุคปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง. รายงานสืบเนื่องการประชุมวิชาการระดับชาติ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ครั้งที่ 1 (403 - 412). กำแพงเพชร : มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
บุญศรี แสงศรี. (2557). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานบุคคลโดยใช้หลักธรรมภิบาลของ สถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง. (วิทยานิพนธ์ ดุษฎีนิพนธ์ ปร.ด.). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
มีชัย พลทองมาก. (2558). รูปแบบการบริหารงานบุคคลตามหลักธรรมาภิบาลในสถานศึกษาขั้น พื้นฐาน. (วิทยานิพนธ์ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
สมหวง ขุนพรหม. (2557). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานบคุคลสำหรับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา. (วิทยานิพนธ์ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). กรุงเทพฯ :มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ.
สุมณฑา สาธุกานนท์. (2558). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิผลของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ในเขตกรุงเทพมหานคร. (วิทยานิพนธ์ ปริญญา ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ.
เสนาะ ติเยาว์. (2546). การบริหารงานบุคคล (พิมพ์ครั้งที่7). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์หาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 10. (2563). คู่มือการปฏิบัติงานพรรณนางานและบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบตามโครงสร้างการบริหาร โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ สมุทรสาคร ประจำปีการศึกษา 2563. โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ สมุทรสาคร อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 10 : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2552). ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ว่าด้วยการบริหารสถานศึกษา พ.ศ. 2552. กรุงเทพฯ.
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2560). แผนพัฒนาการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา.
อนิวัช แก้วจำนงค์. (2552). การจัดการทรัพยากรมนุษย์= Human resource management. สงขลา : ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยทักษิณ.
อัมพร สงคศิริ, จักรกฤษณ์ โปณะทอง และจตุพล ยงศร. (2565). การพัฒนารูปแบบการบริหารทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกผันของสถาบันอุดมศึกษาในกับของรัฐ. วารสารวิจัยและพัฒนา มจธ, 45(2), 193-214.
อุทัย หิรัญโต. (2550). หลักการบริหารบุคคล. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์.
เอมรินทร์ จันทร์บุญนาค, สิน งามประโคน และระวิง เรืองสังข์. (2561). การพัฒนารูปแบบการ บริหารงานบุคคลสู่ความเป็นเลิศของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 6(3), 1041-1055.
Allui, A. & Sahni, J. (2016). Strategic Human Resource Management in Higher Education Institutions: Empirical Evidence from Saudi. Procedia- Social and Behavioral Sciences, 361-371.
Ichsan, R. N., Khaeruman, Santosa, S., Shara, Y., and Liriwati, F. Y. (2020). Investigation of Strategic Human Resource Management Practices in Business After COVID-19 Disruption. Pal Arch’s Journal of Archaeology of Egypt / Egyptology, 17(7), 13098-13110.
Mallin, L. L. D. (2017). Human Resource Management in Selected Higher Education Institutions (HEI): Towards Enhancing Employees' Work. International Journal of Advanced Research in Management and Social Sciences, 6(1), 58-74.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์