สอนอย่างไรให้เด็กปฐมวัยเกิดทักษะการสังเกต
How to teach Preschool Children to develop Observation Skills
คำสำคัญ:
การสอน , เด็กปฐมวัย , ทักษะการสังเกตบทคัดย่อ
การสอนที่มุ่งสร้างเสริมความสามารถในการสังเกตเป็นเรื่องสำคัญที่ควรเริ่มตั้งแต่ช่วงปฐมวัยเนื่องจากเป็นช่วงวัยที่สมองกำลังพัฒนาเต็มที่และธรรมชาติของวัยที่ช่างสังเกต ชอบสำรวจ ช่างซักช่างถาม และอยากรู้อยากเห็น การพัฒนาการสังเกตให้แก่เด็กปฐมวัยช่วยให้เด็กสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวัน และอีกยังเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาและตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมและมีเหตุผล ทั้งยังเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้และการสังเกตในระดับที่สูงขึ้น การสอนที่เปิดโอกาสให้เด็กได้มีประสบการณ์ตรง ลงมือกระทำด้วยตนเองทั้งกิจกรรมการเล่น กิจกรรมศิลปะ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สามารถช่วยสร้างเสริมและพัฒนาการสังเกตให้แก่เด็กปฐมวัยได้โดยครูและผู้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กต้องให้ความสำคัญกับการสอนที่เหมาะสมกับวัยให้เวลาเด็กได้ใช้ความคิดอย่างอิสระ เปิดโอกาสให้เด็กได้สนุกกับการใช้ความคิดที่อาจเป็นการสังเกตคนเดียวหรือคิดร่วมกับเพื่อน และสร้างสภาพแวดล้อมทั้งทางกายภาพที่มีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนการใช้พื้นที่ได้ตามสถานการณ์ มีสื่อ อุปกรณ์ที่พอเพียงและหลากหลาย และสภาพแวดล้อมทางจิตภาพที่ทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่น ไม่กดดัน มีอิสระที่จะคิดสร้างสรรค์ และทบทวนความรู้ ความจำ เพื่อนำมาผสมผสานสร้างเป็นความรู้และความคิดที่ทำให้เกิดทักษะการสังเกตชองเด็กเกิดขึ้น
References
กุลยา ตันติผลาชีวะ. (2556). รูปแบบการเรียนการสอนปฐมวัยศึกษา. กรุงเทพฯ : เอดิสันโปรดักส์.
ชุติมา วัฒนาคีรี. (2556). กิจกรรมวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน. กรุงเทพฯ : ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
ประสาท เนืองเฉลิม. (2557). ของเล่นกับการเรียนรู้วิทยาศาสตร์. วารสารวิชาการ. 6(3), 70 – 72.
ประภาพรรณ สุวรรณศุข. (2556). การจัดการประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์แก่เด็กปฐมวัย. ในเอกสารการสอนชุดวิชาการสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตระดับปฐมวัยศึกษา หน่วยที่ 8.นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ภพ เลาหะไพบูลย์. (2557). แนวการสอนวิทยาศาสตร์. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช.
มณีรัตน์ สุกโชติรัตน์. (2555). เด็กกับการเล่นเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญา การเล่นและเครื่องเล่น. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ยุพา วีระไวทยะ และปรีชา นพคุณ. (2559). การสอนวิทยาศาสตร์แบบมืออาชีพ. กรุงเทพฯ :มูลนิธิสดศรี - สฤษดิ์วงศ์.
ยุพา วีระไวทยะ. (2557). เอกสารอ่านประกอบทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์. กรุงเทพฯ :ภาควิชาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
เยาวพา เดชะคุปต์. (2557). กิจกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย. กรุงเทพฯ : แม็ค.
รัจนา เรียบเรียง. (2556). เลี้ยงลูกให้เป็นอัจฉริยะและมีความสุข. (พิมพ์ครั้งที่ 5). นนทบุรี :โอเอ็นจี.
สิริมา ภิญโญอนันตพงษ์. (2559). การวัดผลและประเมินผลแนวใหม่ : เด็กปฐมวัย ฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุด. กรุงเทพฯ : ยูแพดอินเตอร์.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2561). แนวทางจัดการเรียนวิทยาศาสตร์ปฐมวัย ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย. กรุงเทพฯ : คุรุสภา.
สรศักดิ์ แพรคา. (2556). ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์. อุบลราชธานี : ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
หรรษา นิลวิเชียร. (2555). ปฐมวัยศึกษา หลักสูตรและแนวปฏิบัติ. กรุงเทพฯ : โอเอส พริ้นติ้งเฮ้าส์.
อัญชลี ไสยวรรณ. (2556). การศึกษาเปรียบเทียบผลการจัดประสบการณ์แบบปฏิบัติการทดลองกับแบบผสมผสานที่มีต่อทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒประสานมิตร.
เอราวรรณ ศรีจักร. (2558). การพัฒนาทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ประกอบชุดแบบฝึกทักษะ. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิตสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์