การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา
Management in Line with Good Governance Principles Affecting Effectiveness of Private Schools in Nakhon Ratchasima Province.
คำสำคัญ:
ธรรมาภิบาล, ประสิทธิผล, โรงเรียนเอกชนบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับธรรมาภิบาล และระดับประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา และ 2) หลักธรรมาภิบาลที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มตัวอย่างที่ให้ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียน และครูผู้สอนจากโรงเรียนเอกชน ในจังหวัดนครราชสีมา ปีการศึกษา 2563 จำนวน 265 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเชิงคุณภาพได้แก่ผู้เชี่ยวชาญทางการบริหารการศึกษาจำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเชิงปริมาณ ได้แก่แบบสอบถาม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเชิงคุณภาพ ได้แก่แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์พื้นฐานได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การตีความประมวลข้อสรุปย่อยเป็นข้อสรุปใหญ่
ผลการศึกษา พบว่า
1. หลักธรรมาภิบาลของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา อยู่ในระดับมากและประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดนครราชสีมาอยู่ในระดับมาก
2. หลักธรรมาภิบาลส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยหลักธรรมาภิบาลที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนเอกชนได้แก่ นิติธรรม ความโปร่งใส ความพร้อมรับผิด และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์