การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของข้าราชการ ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
Effect of Good Governance Applying Quality of work Life of the 3rd Forensic Center, The Royal Thai Police Headquarters.
คำสำคัญ:
หลักธรรมาภิบาล, คุณภาพชีวิตการทำงาน, สำนักงานตำรวจแห่งชาติบทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของข้าราชการตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการบริหารงาน และ 2) ศึกษาการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของข้าราชการตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้วิธีวิจัยเชิงผสมผสาน (Mixed research method) ประชากรได้แก่ ข้าราชการตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 380 นาย กลุ่มตัวอย่างผู้วิจัยทำการเลือกแบบเจาะจง ประกอบด้วยข้าราชการตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 380 นาย เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม และการสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์และการวิเคราะห์ความถดถอยพหุคูณ
ผลการวิจัย พบว่า ปัจจัยการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของข้าราชการตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 โดยใช้สถิติถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression) ด้วยวิธี Stepwise แสดงให้เห็นว่าปัจจัยการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของข้าราชการตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 ประกอบด้วย หลักนิติธรรม หลักความโปร่งใส หลักความมีส่วนร่วม หลักความคุ้มค่า และหลักการบริหารทรัพยากรมนุษย์โลกาภิวัตน์ โดยมีสัมประสิทธิ์ถดถอย 0.412 0.502 0.612 0.375 และ 0.441 ตามลำดับ และค่าสัมประสิทธิ์ในการทำนาย (R2) เท่ากับ 0.85 สามารถทำนายผลได้ร้อยละ 85
ผลสรุปคำให้สัมภาษณ์ของผู้ให้ข้อมูลพบว่า ประเด็น ค่าตอบแทนที่เพียงพอและยุติธรรมเห็นว่ามีความเหมาะสมกับความรับผิดชอบ ด้านสภาพแวดล้อมที่ถูกสุขลักษณะและปลอดภัย เห็นว่าที่ทำงานสะดวกและสะอาด ประเด็นการพัฒนาความสามารถของบุคคลเห็นว่ามีโครงการสนับสนุนในการอบรมศึกษาเพื่อเพิ่มทักษะความรู้ ประเด็นความมั่นคงและความก้าวหน้าในงานเห็นว่ามีความชัดเจนในเส้นทางเจริญก้าวหน้าในการงานด้านการบูรณาการด้านสังคม และความเกี่ยวข้องอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม พบว่ามีสังคมที่ดี และทำงานที่ทำประโยชน์ให้สังคมอยู่เสมอ ด้านประชาธิปไตยในองค์การพบว่ามีการให้โอกาสแสดงความคิดเห็นและมีการยอมรับกันทำให้มีการทำงาน ด้านความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวมีความเห็นว่ามีความเหมาะสม
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์