การสร้างมายาคติด้วยการแต่งหน้าเพื่อสื่อความหมายในสื่อการแสดงสี่เผ่าไท เพื่อเชิดชูอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ
The myth of make up as the significance of the 4 tribes Sisaket Province's performances for glorification of their identities.
คำสำคัญ:
มายาคติ, การสื่อความหมาย, การแสดงสี่เผ่าไท, อัตลักษณ์บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมมายาคติทางด้านการแต่งหน้าและการสื่อความหมายด้วยวิธีการและเทคนิคการแต่งหน้าในสื่อการแสดงของกลุ่มชนชาติสี่เผ่าไท ในจังหวัดศรีสะเกษ จากการศึกษาพบว่า การสร้างมายาคติด้วยการแต่งหน้าเพื่อสื่อความหมายในการสื่อการแสดงสี่เผ่าไท เพื่อเชิดชูอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ อันได้แก่ การแต่งหน้าในสื่อการแสดงของกลุ่มชาติพันธุ์ คือ“รำเซียงข้อง”ของกลุ่มชาติพันธุ์ส่วย “เรือมมะม๊วด”ของกลุ่มชาติพันธุ์เขมร “หมอรำเรื่อง”ของกลุ่มชาติพันธุ์ลาว และ “รำเซิ้งสะไน”ของกลุ่มชาติพันธุ์เยอ จากกระบวนการแต่งหน้าในแต่ละขั้นตอนมีวิธีการที่สอดคล้อง คล้ายคลึง ใกล้เคียง และเชื่อมโยง โดยวิธีการแต่งหน้าในสื่อการแสดงสี่เผ่าได้นำโครงสร้างของการแต่งหน้าและองค์ประกอบทางเข้ามาประยุกต์ใช้ในการแต่งหน้า นอกจากนั้นการแต่งหน้าในสื่อการแสดงสี่เผ่าไทของกลุ่มชาติพันธุ์ได้สื่อความหมายร่วมกันคือ “ความงาม” ซึ่งถือเป็นมายาคติของการแต่งหน้าในสื่อการแสดงสี่เผ่าไท อันเป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดศรีสะเกษ
เอกสารอ้างอิง
กาญจนา แก้วเทพ. (2544). ศาสตร์แห่งสื่อและวัฒนธรรมศึกษา. กรุงเทพฯ: เอดิสันเพรสโปรดักส์.
กาญจนา แก้วเทพ และสมสุข หินวิมาน. (2551).สายธารแห่งนักคิดทฤษฎีเศรษฐศาสตร์การเมืองกับสื่อสารศึกษา. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัดภาพพิมพ์.
กฤษณ์ ทองเลิศ. (2545). การผสานรูปแบบ การสื่อความหมายและจินตสาระของผู้รับสารเป้าหมาย ที่มีต่องานภาพถ่ายกับลายลักษณ์อักษรในงานโฆษณาทางสื่อสิ่งพิมพ์. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ฉลาดชาย รมิตานนท์. (2544). แนวคิดในการศึกษาอัตลักษณ์ความเป็น ไท. ใน เอกสารประกอบการการประชุมวิชาการเรื่องการศึกษาประวัติศาสตร์และวรรณกรรมของของกลุ่มชาติพันธ์ไท. 22-23 มีนาคม 2544. เชียงใหม่: ห้องช้างกระโรงแรมเชียงใหม่ออคิด.
ธิดา โมสิกรัตน์. (2533). “การละเล่นพื้นบ้านของไทย,” ในเอกสารการสอนชุดวิชาศิลปะการละเล่นและการแสดงพื้นเมืองของไทย หน่วยที่ 9-15. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ธีรยุทธ บุญมี. (2551). การปฏิวัติสัญศาสตร์ของโซซูร์เส้นทางสู่โพสโมเดอร์นิสม์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์วิภาษา.
ปรมะ สตะเวทิน. (2533). หลักนิเทศศาสตร์. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.
ปัทมาพร ชเลิศเพ็ชร. (2542). ซีละ : การละเล่นพื้นเมืองภาคใต้. โครงการตำราวิชาการราชภัฎเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนพรรษา ๖ รอบ. สถาบันราชภัฎสงขลา.
โรล็องด์ บาร์ตส์. (2544). มายาคติ Mythologies. (ฉบับแปลโดยวรรณพิมล อังคศิริสรรพ). กรุงเทพฯ: โครงการจัดพิมพ์คบไฟ.
สาธิดา เตชะภัทรพร. (2541). บทบาทของการแต่งหน้าในฐานะเป็นส่วนขยายความรู้สึกทางด้านจิตใจในสื่อ วิทยุโทรทัศน์. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สิรตากร ส่งน้อย. (2555). การวิเคราะห์ฉากในละครโทรทัศน์เรื่องเสาร์ 5 ของ ฉลอง ภักดีวิจิตร. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่.
สุทธิวงค์ พงศ์ไพบูลย์. (2528). การละเล่นพื้นเมืองภาคใต้. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์เฉลิมนิจ.
สุพรรณี เหลือบุญชู. (2541). ดนตรีละศิลปะการแสดงพื้นบ้านอิสาน. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
อภิญญา เฟื่องฟูสกุล. (2546). อัตลักษณ์การทบทวนทฤษฎีและกรอบแนวคิด คณะกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติสาขาสังคมวิทยา. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.
Barthes, R. (1072). translated by Annette Lavers. Mythologies. London: Paladin.
Brake, M. (1980). The Sociology of Youth Culture and Youth Subcultures. London, Routledge, Kegan & Paul.
Herbert, R. (1980). kryolan theatrical makeup manual. munich: Kryolan Gmbtt.
McLuhan, M. (1964). Understanding Media : Theextension of man. Newyork: A Signet Book. New American library.
Planalp, S. (1998). Communicating emotion in everyday life: Cues, channels and processes. In P. A. Andersen & L. K. Guerrero (Eds.), The handbook of communication and emotion: Research, theory, applications and contexts (pp. 29-48). New York, NY: Academic Press.
Palma, Diego Dalla. (1988). Makeup Artist's Handbook for Stage, Screen & Video. New York: Sterling Publisg.
Woodward, K. (1997). Identity and difference. London: SAGE.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์