การศึกษาความชื่นชอบรูปแบบสถาปัตยกรรมที่พักขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีศึกษาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์
The Affection Study of Architectural Feature of The Government Officer House in Case Study of Local Government Organization in The Area of Phetchabun City District of Phetchabun Province
คำสำคัญ:
รูปแบบสถาปัตยกรรม, ที่พัก, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาความชื่นชอบรูปแบบสถาปัตยกรรมที่พักของข้าราชการส่วนท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ และ 2) เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลพื้นฐานส่วนบุคคลกับความชื่นชอบรูปแบบสถาปัตยกรรมที่พักของข้าราชการส่วนท้องถิ่น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือข้าราชการส่วนท้องถิ่น ที่ไม่มีบ้านพักเป็นของตนเอง จำนวน 110 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติ Chi-Square ในการทดสอบสมมติฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1. กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 56 อายุระหว่าง 31 – 40 ปี คิดเป็นร้อยละ 37 ระดับการศึกษาปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 61 ระดับตำแหน่งงาน อยู่ในระดับปฏิบัติการ คิดเป็นร้อยละ 49 2. ความคิดเห็นต่อความชื่นชอบรูปแบบสไตล์สถาปัตยกรรมในภาพรวม พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความชื่นชอบรูปแบบสไตล์ธรรมชาติ อยู่ในระดับมาก โดยรูปแบบสถาปัตยกรรมสำหรับอาคารภายนอก พบว่า บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น มีผู้ชื่นชอบอยู่ในระดับมากที่สุด และรูปแบบอาคารภายใน พบว่ารูปแบบสถาปัตยกรรมที่พักภายในห้องโถง สไตล์โมเดิร์น มีผู้ที่ชื่นชอบอยู่ใน ระดับมาก 3. ผลการเปรียบเทียบข้อมูลพื้นฐานของผู้ตอบแบบสอบถามต่อความชื่นชอบรูปแบบสถาปัตยกรรมที่พักขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พบว่า ข้อมูลพื้นฐานที่ต่างกัน มีผลต่อความชื่นชอบรูปแบบสถาปัตยกรรมที่พักแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
เอกสารอ้างอิง
กองการเลือกตั้งท้องถิ่น. (2563). ข้อมูลจำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. กรมส่งเสริมการ ปกครองท้องถิ่น.
คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. (2559). โครงการศึกษาปรับปรุงภูมิ สถาปัตยกรรม (Land-scape) พื้นที่กรมชลประทาน ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี. นนทบุรี : กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.
ประทุม แยมสูงเนิน ร.น. (2558). ความพึงพอใจในการจัดสวัสดิการด้านที่อยู่อาศัยประเภทอาคาร ที่พัก อาศัยส่วนกลาง ข้าราชการกองทัพเรือ พื้นที่กรุงเทพมหานคร THE SATISFACTION IN CENTRALHOUSING WELFARE PROVISION OF THE NAVAL PERSONNEL IN BANGKOK. วิทยานิพนธ์สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารและนโยบายสวัสดิการสังคม ภาควิชาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ คณะสังคม สงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ปัณณธร เธียรชัยพฤกษ์. (2561). ทิศทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทยในอนาคต. วิทยาลัยสงฆ์ ราชบุรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พิจักษณ์ หิญชีระนันท์ และคณะ. (2562). รูปแบบสถาปัตยกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยของข้าราชการ กรณีศึกษากรมชลประทาน ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี. วิทยานิพนธ์ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา.
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2563). พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2553. [ออนไลน์]. สืบค้นจาก : https://www.krisdika.go.th/web/guest/law.
สำนักงานคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น. (2563). จำนวนบุคลากรท้องถิ่น. [ออนไลน์]. สืบค้นจาก : www.local.moi.go.th/local_sub5.htm. (2563, 20 ตุลาคม).
สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเพชรบูรณ์. (2563). ขอความเห็นชอบการจัดทำแผนอัตรากำลัง 3 ปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564-2566.
Cronbach, L.J. (1951). Coefficient alpha and the internal structure of tests. Psychomeetrika. 16 (3), 297-334
Jencks, Charles and Kropf, Karl. (2006). Theories and manifestoes of contemporary architecture. Chichester : Wiley-Academy.
Likert, R. (1932). A technique for the Measurement of Attitudes. New York : New York University.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
