การวิเคราะห์พฤติกรรมและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยวเชิงฮาลาล ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในเขตกรุงเทพมหานคร
Factor and Behavior Analysis Towards HALAL Tourism of Foreigner's Tourists in Bangkok.
คำสำคัญ:
พฤติกรรมนักท่องเที่ยว, การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ, การท่องเที่ยวเชิงฮาลาลบทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงฮาลาลของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในเขตกรุงเทพมหานคร และเพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยวเชิงฮาลาลของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในเขตกรุงเทพมหานคร เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวเชิงฮาลาลในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ โดยใช้วิธีการสกัดองค์ประกอบหลัก และหมุนแกนองค์ประกอบตั้งฉากด้วยวิธีแวริแมกซ์ (Varimax Rotation)
ผลการวิจัย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 21 – 30 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า อาชีพพนักงานบริษัท รายได้ต่อเดือน 20,001 – 30,000 บาท พฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงฮาลาลของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่ มีวัตถุประสงค์เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ร่วมเดินทางมากับเพื่อนและเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเอง ระยะเวลาในการเดินทางท่องเที่ยว 4 - 6 วัน ช่วงเวลาในการเดินทางท่องเที่ยว คือ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ โดยมีความถี่ในการเดินทางท่องเที่ยว 2 – 3 ครั้งต่อปี ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 20,000 - 30,000 บาท แหล่งข้อมูลทางการท่องเที่ยวมาจากบุคคลรอบข้าง ประเภทของที่พักเป็นโรงแรม ประเภทของแหล่งท่องเที่ยวที่สนใจเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และแนวโน้มที่เดินทางกลับมาท่องเที่ยวอีก สำหรับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยวเชิงฮาลาลของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในเขตกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย 7 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) ด้านมาตรฐานการบริการ 2) ด้านธุรกิจท่องเที่ยวบริการที่เป็นมิตรกับมุสลิม 3) ด้านราคาสินค้าและบริการ 4) ด้านการตลาดการท่องเที่ยวมุสลิม 5) ด้านสถานที่จัดจำหน่าย 6) ด้านบัญญัติมุสลิมและสภาพแวดล้อม และ 7) ด้านสวัสดิภาพและการบริการข้อมูล
เอกสารอ้างอิง
กัลยา วาณิชย์บัญชา. (2555). สถิติสำหรับงานวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2560). สถานการณ์และแนวโน้มการท่องเที่ยวมุสลิม. กรุงเทพฯ: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.
ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2548). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS. กรุงเทพฯ: บิสซิเนส อาร์ แอนด์ ดี.
บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา. (2555). อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สถาบันวิจัยสังคม. (2561). คู่มือการท่องเที่ยวฮาลาล. เชียงใหม่: ศูนย์วิจัยและพัฒนาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สถาบันฮาลาล. (2561). คู่มือการท่องเที่ยวเชิงฮาลาล. สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
Battour, M. (2010). Toward a halal tourism market. Tourism Analysis. 15(4), 461-470.
Corbin, J. and Strauss. (2008). Basics of qualitative research. London, England: Sage
Cronbach, L.J., Gleser, G.C., Nanda, H., and Rajaratnam, N. (1972). The dependability of behavioral measurements. New York: Wiley.
Hudson, S. (2008). Tourism and hospitality marketing: a global perspective. Los Angeles: Sage.
Lovelock, C. and Wright, L. (2002). Principles of service marketing and management. Upper Saddle River, New Jersey: Prentice Hall.
Kotler, P., Bowen, J.T. and Makens, J. (2014). Marketing for hospitality and tourism. Boston: Pearson.
Nunnally, J.C. (1978). Psychometric theory. New York: McGraw-Hill.
Ricky, A. and Jasman, J.M. (2018). Halal tourism: an empirical examination of tourist motivation in Aceh. Journal of Tourism, Hospitality and Environmental Management. 3(10), 21-38.
Rovinelli, R.J. and Hambleton, R.K. (1977). On the use of content specialists in the assessment of criterion referenced test item validity. Dutch Journal of Educational Research. 2, 49-60.
Saunders, M., Lewis, P., and Thornhill, A. (2007). Research methods for business students. Harlow: Financial Times Prentice Hall.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์