ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกใช้ระบบสารสนเทศทางการบัญชีของหน่วยงานภาคเอกชนในจังหวัดสุรินทร์
Factors Affecting Decisions in using an Accounting Information System by Private Units in Surin.
คำสำคัญ:
โปรแกรมสําเร็จรูปทางการบัญชี, ประสิทธิภาพของระบบ, การตัดสินใจเลือกบทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความต้องการในการใช้โปรแกรมสําเร็จรูปทางการบัญชี 2) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกใช้ระบบสารสนเทศทางการบัญชีของหน่วยงานภาคเอกชนในจังหวัดสุรินทร์ ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารหน่วยงานภาคเอกชนในจังหวัดสุรินทร์ 384 ราย วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสอบถามที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงและความเชื่อมั่นแล้ว วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และทดสอบสมมติฐานด้วยการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ
ผลการศึกษาพบว่า
1. กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับความต้องการในการใช้โปรแกรมสําเร็จรูปทางการบัญชี ได้แก่ 1) เมื่อหน่วยงานประยุกต์ระบบสารสนเทศทางการบัญชีในการดําเนินงานจะช่วยให้งานทรัพยากรบุคคลมีประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้น (ร้อยละ 53.13) 2) ความต้องการโปรแกรมสําเร็จรูปทางการบัญชีอยู่ในระดับมาก (ร้อยละ 78.91) และ 3) ต้องการโปรแกรมสําเร็จรูปทางการบัญชีเพื่อช่วยในการดำเนินการด้านการแยกประเภทบัญชี (ร้อยละ 37.23)
2. ปัจจัยประสิทธิภาพของระบบสารสนเทศทางการบัญชีทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านความสามารถของระบบ ด้านการใช้งานระบบ ด้านการออกแบบระบบ และด้านการแจ้งเตือนเมื่อเกิดผิดพลาด มีอิทธิพลเชิงบวกต่อการตัดสินใจเลือกใช้ระบบสารสนเทศทางการบัญชี ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
จรรยาบรรณผู้เขียนบทความ
ผู้เขียนบทความต้องรับรองว่าบทความนี้ไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใดหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ มาก่อน ต้องไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นมาปรับแต่งเป็นบทความของตน และไม่ได้อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ อีกทั้งยอมรับหลักเกณฑ์การพิจารณาและการตรวจแก้ไขบทความต้นฉบับโดยกองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจพิจารณาทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญตรงตามสาขาของบทความ ซึ่งผู้เขียนต้องแก้ไขตามคำแนะนำของผู้ทรงคุณวุฒิภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่เป็นไปตามกำหนดกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์และยกเลิกการตีพิมพ์โดยจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อความที่ปรากฏในบทความของวารสารนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยนครราชสีมาแต่อย่างใด และกองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตรวจประเมินบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารของวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์