สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการโรงเรียนนานาชาติ ในประเทศไทยเพื่อเป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาคอาเซียน

Main Article Content

วราภรณ์ โลหวัฒนกิจ
จตุพล ยงศร
จันทรัศม์ ภูติอริยวัฒน์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยเพื่อเป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาคอาเซียน ใช้วิธีวิจัยเชิงปริมาณกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติ จำนวน 148 คน คำนวณตามตารางของ Krejcie & Morgan คัดเลือกด้วยวิธีสุ่มแบบง่ายจากโรงเรียนในทุกภูมิภาคเพื่อให้ได้ตัวแทนที่ครอบคลุม เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถามที่สร้างขึ้นตามกรอบแนวคิดการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน การบริหารคุณภาพโดยรวม แนวคิดความเป็นนานาชาติในที่ตั้ง และองค์ประกอบของศูนย์กลางการศึกษา สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นโดยใช้ Modified Priority Needs Index ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัจจุบันของการบริหารจัดการโรงเรียนนานาชาติ อยู่ในระดับ “มาก” (equation = 4.30, S.D. = 0.56) ส่วนสภาพที่พึงประสงค์อยู่ในระดับ “มากที่สุด” (equation = 4.70, S.D. = 0.40) ด้านที่เข้มแข็งที่สุด คือ “การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้” (PNI modified 0.01) สะท้อนระบบประกันคุณภาพที่มีความโปร่งใส และมีการพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง ส่วนด้านที่มีความต้องการจำเป็นสูงสุด ได้แก่ “การบริหารแบบมีส่วนร่วมและการพัฒนาบุคลากร” และ “สภาพแวดล้อมการเรียนรู้และการพัฒนาทั้งระบบ” (PNI modified 0.13) แสดงถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของบุคลากร การพัฒนาวิชาชีพ การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับการเรียนรู้ ผลการวิจัยสะท้อนว่า การขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการศึกษาของอาเซียนจำเป็นต้องมีนโยบายที่ชัดเจน กลไกสนับสนุนการร่วมลงทุนกับภาคเอกชนต่างชาติ การพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ และแผนกลยุทธ์ที่ต่อเนื่อง เพื่อเสริมศักยภาพของโรงเรียนนานาชาติในการเป็นกลไกหลักของระบบการศึกษานานาชาติของไทยอย่างมีประสิทธิภาพ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
โลหวัฒนกิจ ว. ., ยงศร จ. ., & ภูติอริยวัฒน์ จ. . (2025). สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการโรงเรียนนานาชาติ ในประเทศไทยเพื่อเป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาคอาเซียน. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 12(12), 188–196. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/296234
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ธีรวุฒิ เอกะกุล. (2543). ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. อุบลราชธานี: สถาบันราชภัฏอุบลราชธานี.

ศรีอำไพ อิงคกิตติ. (2567). ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ. LH Bank. เรียกใช้เมื่อ 1 สิงหาคม 2567 จาก https://shorturl.asia/oezWu

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน. (2567). รายงานประจำปี 2566. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน.

Beelen, J. & Jones, E. (2015). Redefining internationalization at home. Retrieved December 24, 2024, from https://doi.org/10.1007/978-3-319-20877-0_5

Caldwell, B. J. & Spinks, J. M. (2013). The Self-Transforming School. London: Routledge.

Deming, W. E. (1986). Out of the crisis. Cambridge: Massachusetts Institute of Technology Press.

Hallinger, P. & Lee, M. (2016). Mapping the terrain of educational leadership and management in East Asia. International Journal of Leadership in Education, 19(3), 262-282.

Julie, V. (2021). Internationalization and the Changing Paradigm of Higher Education in the GCC Countries. Journal of Economic literature, 5(2), https://shorturl.asia/TLOZG

Knight, J. (2011). Education Hubs: A fad, a brand, an innovation? Journal of Studies in International Education, 15(3), 221-240.

Lee, J. & Knight, J. (2014). Three types of education hubs: Student, talent and knowledge. Retrieved August 20, 2024, from https://shorturl.asia/VroSY

OECD. (2021). Education at a Glance 2021: OECD indicators. Retrieved December 15, 2024, from https://shorturl.asia/1AvFP

Sallis, E. (2014). Total quality management in education. (4th ed.). London: Routledge.

Soulé, H. et al. (2024). Rethinking Internationalization at home: Policy and practice challenges. Higher Education Research & Development, 43(1), 1-15.

UNICEF. (2021). Teachers at the heart of education recovery. Retrieved December 15, 2024, from https://shorturl.asia/KLUjd