แนวทางการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวชุมชนแบบมีส่วนร่วม จากฐานทรัพยากรในชุมชนลำไพล อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา

Main Article Content

ศุภมาส อยู่อริยะ
เจษฎา นกน้อย

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์เส้นทางการท่องเที่ยวในชุมชนลำไพล อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา และ 2) พัฒนาแนวทางการท่องเที่ยวชุมชนแบบมีส่วนร่วมจากฐานทรัพยากรในชุมชน โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างและการสนทนากลุ่ม จากผู้ให้ข้อมูลสำคัญที่คัดเลือกแบบเจาะจง จำนวน 18 คน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ฝ่ายปกครอง ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตัวแทนประชาชนและนักท่องเที่ยว กลุ่มละ 6 คน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา โดยตรวจสอบความสอดคล้องของข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ผลการวิจัยพบว่า ชุมชนลำไพลมีฐานทรัพยากรการท่องเที่ยวที่ครบถ้วน ทั้งพื้นที่เอกชน ได้แก่ สวนผลไม้ ไร่เกษตรผสมผสาน ร้านค้าในชุมชน และทุ่งนาเนื้อที่กว่า 200 ไร่ รวมถึงพื้นที่สาธารณะ ได้แก่ โบราณสถานบ้านควนเจดีย์ วัดควนเจดีย์ จุดชมวิวควนขาว จุดชมวิวทะเลหมอกควนเจดีย์แหล่งน้ำทุ่งพระยอด และศูนย์การเรียนรู้ชุมชน สะท้อนศักยภาพด้านธรรมชาติ เกษตรกรรม วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม ผู้วิจัยเสนอแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “เที่ยวท่อง ล่องควน ชวนแลเลหมอก” โดยเชื่อมโยงจุดท่องเที่ยวหลัก 6 จุด เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน การเรียนรู้ และการศึกษาดูงาน อย่างไรก็ตาม ยังพบข้อจำกัดด้านการเข้าถึงพื้นที่ โครงสร้างพื้นฐาน ป้ายบอกทาง การประชาสัมพันธ์ ช่องทางจำหน่าย และการประสานงานระหว่างภาคส่วน งานวิจัยจึงเสนอแนวทางเชิงนโยบายที่เน้นการจัดตั้งกลไกการบริหารจัดการร่วม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การยกระดับทักษะด้านบริการและการตลาด การจัดกลุ่มกิจกรรมตามฐานทรัพยากร และการจัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนที่เส้นทาง เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืนในระยะยาว

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
อยู่อริยะ ศ. ., & นกน้อย เ. . (2025). แนวทางการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวชุมชนแบบมีส่วนร่วม จากฐานทรัพยากรในชุมชนลำไพล อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 12(12), 299–310. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/296016
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ดรรชนี เอมพันธุ์. (2550). การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนและการจัดกิจกรรมโฮมสเตย์. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

ทรงกลด พลพวก และคณะ. (2567). การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วมของชุมชนชายแดนไทยกัมพูชา จังหวัดสุรินทร์. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 16(2), 165-182.

ธง คำเกิด และคณะ. (2564). แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืนและสร้างสรรค์ พ.ศ. 2561 - 2565. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.

นำขวัญ วงศ์ประทุม และคณะ. (2561). การประเมินศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรหมู่บ้านวาวี จังหวัดเชียงราย. วารสารวิทยาลัยดุสิตธานี, 12(2), 132-150.

บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา. (2542). การวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์วิชาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.

วิภาดา เถาธรรมพิทักษ์ และคณะ. (2566). การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรเชื่อมโยงอย่างสร้างสรรค์ โดยฐานทรัพยากรท้องถิ่น ชุมชนท่าสะบ้า อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง. วารสารเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยทักษิณ, 15(2), 21-36.

ศิวาพร พยัคฆนันท์ และคณะ. (2566). แนวทางการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวและการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อความสำเร็จของการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรม หมู่บ้านควายห้วยลำพอก ตำบลกุดหวายอำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์. วารสารการบริหารการปกครองและนวัตกรรมท้องถิ่น, 7(3), 192-212.

อัญชลี ศรีเกตุ. (2565). การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนสู่วิถีที่ยั่งยืน. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น, 8(2), 270-279.

อุทุมพร เรืองฤทธิ์ และคณะ. (2563). การจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนบนฐานรากวิถีชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืนของตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ.

Jafaruddin, N. et al. (2020). Variables influencing the potency of community based coffee agro-tourism in Mount Galunggung, Tasikmalaya, Indonesia. Journal a Coffee and Cocoa Research, 36(3), 267-276.

Kunurat, K. et al. (2003). Developing the tourism potential of the northeastern region. in Research report. Khon Kaen University.

Suwanpimon, K. et al. (2004). A study of the efficiency of services in the transportation system in Phuket Province, Phang Nga Province and Krabi Province. in Research report. Thailand Research Fund.