ความเสมอภาคทางการศึกษาในการพัฒนาโรงเรียนเรียนรวม

Main Article Content

พรรณรอง ฐิติพรวณิช
รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงคุณภาพครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันของยุทธศาสตร์การพัฒนาโรงเรียนเรียนรวม และ 2) ศึกษาสภาพพึงประสงค์ของยุทธศาสตร์ดังกล่าวเพื่อเสริมสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาใช้วิธีการวิเคราะห์เอกสารจากวิทยานิพนธ์ บทความวิจัย รายงานเชิงนโยบาย และเอกสารวิชาการที่เผยแพร่ในประเทศไทย ระหว่างปีพ.ศ. 2561 - 2567 โดยคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจงตามเกณฑ์ความเกี่ยวข้อง ความน่าเชื่อถือ และความทันสมัย เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบบันทึกการวิเคราะห์เอกสาร ซึ่งพัฒนาขึ้นจากกรอบแนวคิดการจัดการศึกษาแบบเรียนรวม และผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา โดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันอยู่ในระยะ “ก่อตัวและกระจายตัว” โดยพบช่องว่างเชิงระบบ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านนโยบายและการบริหารจัดการ ด้านการพัฒนาศักยภาพครู ด้านการจัดการเรียนรู้และสิ่งแวดล้อม และด้านการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้อง ทำให้โรงเรียนจำนวนมากยังไม่สามารถตอบสนองต่อความแตกต่างของผู้เรียนได้อย่างทั่วถึง 2) สภาพพึงประสงค์มุ่งสู่ “การบูรณาการเชิงระบบ” ผ่านการจัดทำแผนยุทธศาสตร์เฉพาะด้าน การพัฒนาครูอย่างต่อเนื่อง การประยุกต์ใช้แนวคิด Universal Design for Learning (UDL) การจัดสิ่งแวดล้อมที่เข้าถึงได้ และการสร้างเครือข่ายความร่วมมืออย่างยั่งยืนระหว่างครอบครัว ชุมชน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ข้อค้นพบชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการยกระดับกลไกเชิงยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG4) เพื่อรับประกันโอกาสและคุณภาพการศึกษาที่เท่าเทียมอย่างแท้จริง ทั้งนี้ โมเดลที่พัฒนาขึ้นจากผลการสังเคราะห์สามารถใช้เป็นกรอบเชิงหลักฐานสำหรับกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติในการพัฒนาโรงเรียนเรียนรวมของประเทศไทย รวมทั้งเป็นต้นแบบให้ประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ที่มุ่งส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษาอย่างยั่งยืน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ฐิติพรวณิช พ. ., & เวหะชาติ ร. . (2025). ความเสมอภาคทางการศึกษาในการพัฒนาโรงเรียนเรียนรวม. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 12(10), 248–259. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/293539
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

จิตราพร แก้วพรม และศันสนีย์ จะสุวรรณ์. (2564ก). ความต้องการจำเป็นและแนวทางการพัฒนาการบริหาร จัดการเรียนร่วม. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.

จิตราพร แก้วพรม และศันสนีย์ จะสุวรรณ์. (2564ข). แนวปฏิบัติที่ดีในการบริหารจัดการเรียนร่วมโรงเรียน. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์, 8(2), 210-224.

พระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. 2561. (2561). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนที่ 46 ก หน้า 1-17 (10 พฤษภาคม 2561).

พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551. (2551). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนที่ 39 ก หน้า 1-7 (5 มีนาคม 2551).

ภาวณี เทมียโก และธรินธร นามวรรณ. (2563). การพัฒนาแนวทางการจัดการศึกษาเรียนรวมสำหรับสถานศึกษาในจังหวัดเลย เขต 1. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 7(8), 219-233.

ลัดดาวัลย์ เพชรโรจน์. (2565). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนร่วมของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

แววตา ไชยขันธ์ และคณะ. (2565). การพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาแบบเรียนรวมของโรงเรียนในสังกัดศึกษาธิการภาค 12. วารสารสหวิทยาการวิจัยและวิชาการ, 2(6), 645-670.

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.

สุนิสา สกุลเกื้อกุล และคณะ. (2563). รูปแบบการจัดการศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับสถานศึกษาในจังหวัด น่าน. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 7(8), 364-373.

อรัญญา แสนสีแก้ว. (2566). ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิผลในการจัดการศึกษาแบบเรียนรวมของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

Agbenyega, J. S. & Klibthong, S. (2022). Teachers’ perspectives on evidence-based practice for inclusive early childhood education in Thailand. International Journal of Inclusive Education, 26(9), 935-950.

Booth, T. & Ainscow, M. (2011). Index for inclusion: Developing learning and participation in schools (Rev. ed.). Bristol: Centre for Studies on Inclusive Education (CSIE).

Florian, L. & Black-Hawkins, K. (2011). Exploring inclusive pedagogy. British Educational Research Journal, 37(5), 813-828.

Krippendorff, K. (2004). Content analysis: An introduction to its methodology. (2nd ed.). Thousand Oaks, California: Sage.

Lincoln, Y. S. & Guba, E. G. (1985). Naturalistic inquiry. Beverly Hills, California: Sage.

Norwich, B. (2014). Addressing tensions and dilemmas in inclusive education: Living with uncertainty. London: Routledge.

OECD. (2024). Education at a glance 2024: OECD indicators. Paris: OECD Publishing. https://doi.org/10.1787/c00cad36-en

Scott, J. (1990). A matter of record: Documentary sources in social research. Cambridge: Polity Press.

UNESCO. (2005). Guidelines for inclusion: Ensuring access to education for all. Paris: UNESCO.

UNESCO. (2017). A guide for ensuring inclusion and equity in education. Paris: UNESCO.

UNESCO. (2023). Global Report on Disability-Inclusive Education Environments. Paris: UNESCO.

UNESCO-UNICEF. (2023). Joint Framework on Family Engagement in Inclusive Education. New York: United Nations.

UNICEF. (2024). Inclusive Education Progress Report: Asia and the Pacific 2024. Bangkok: UNICEF.

Vorapanya, S. (2008). A model for inclusive schools in Thailand. In Ph.D. Dissertation. University of Oregon.

World Bank. (2020). Learning for all: Towards inclusive and equitable education in East Asia. Washington, D.C.: World Bank.