โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของประสิทธิผลโรงเรียน : การสังเคราะห์ งานวิจัยด้วยการวิเคราะห์อภิมาน โมเดลสมการโครงสร้าง
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของประสิทธิผลโรงเรียน โดยการสังเคราะห์งานวิจัยด้วยการวิเคราะห์อภิมานและโมเดลสมการโครงสร้าง 2) เพื่อพัฒนาโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของประสิทธิผลโรงเรียน จากการสังเคราะห์งานวิจัยด้วยการวิเคราะห์อภิมานและโมเดลสมการโครงสร้างรายงานวิจัยที่นำมาสังเคราะห์ในครั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ งานวิจัยเชิงปริมาณ จำนวน 105 เรื่อง ที่เป็น วิทยานิพนธ์/ปริญญานิพนธ์ ที่มุ่งศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อประสิทธิผลโรงเรียนสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ผลการวิจัยพบว่า 1) การวิจัยนี้วิเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิผลโรงเรียนจำนวน 105 เล่ม พบว่า งานวิจัยส่วนใหญ่เป็นเชิงปริมาณโดยมีความหนาแน่นสูงสุดในช่วง พ.ศ. 2558 - 2560 ในระดับการทดสอบสมมติฐานตัวแปรที่ถูกศึกษา ได้แก่ การจัดการเรียนการสอน บรรยากาศโรงเรียน วัฒนธรรมองค์กร ภาวะผู้นำ และคุณภาพผู้เรียน ผลการวิเคราะห์ขนาดอิทธิพล พบว่า ตัวแปรประสิทธิผลโรงเรียน มีจำนวนค่าขนาดอิทธิพลในรูปสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์รวม 34 ค่า อยู่ในระดับปานกลาง 2) ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของตัวแปรในโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของประสิทธิผลโรงเรียน : การสังเคราะห์ งานวิจัยด้วยการวิเคราะห์อภิมาน โมเดลสมการโครงสร้าง พบว่า โมเดลเมื่อปรับแล้วมีความสอดคล้องดีมาก (χ² = 308.485, df = 255, p = 0.062, χ²/df = 1.209) ค่า Factor Loading ของตัวบ่งชี้ทั้งหมดอยู่ระหว่าง 0.865 - 0.954 และตัวแปรทั้งหมดมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 การวิเคราะห์อภิมานร่วมกับโมเดลสมการโครงสร้าง พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลรวมต่อประสิทธิผลโรงเรียนสูงสุด ได้แก่ การเอาใจใส่ของผู้ปกครอง โดยโมเดลสามารถอธิบายความแปรปรวนของประสิทธิผลโรงเรียนได้ 81.7%
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2551). สังคมอุดมปัญญาและเศรษฐกิจฐานความรู้. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
กรรณิการ์ สุสม. (2558). ปัจจัยด้านภาวะผู้นำของผู้บริหาร ด้านวิชาการ และด้านบรรยากาศโรงเรียนที่ส่งผลต่อประสิทธิผลโรงเรียนเอกชนระดับปฐมวัยในกรุงเทพมหานคร. ใน ดุษฎีนิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542 แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่2) พุทธศักราช 2545. กรุงเทพมหานคร: คุรุสภา.
กุลธิดา กุลประทีปัญญา. (2558). การวิจัยทางการศึกษา: แนวคิดและการประยุกต์ใช้. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
จริยา ชื่นศิริมงคล. (2554). การสังเคราะห์งานวิจัยที่ศึกษาปัจจัยด้านเด็กและครอบครัวที่มีอิทธิพลต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของเด็กด้วยเอ็มเอเอสอีเอ็ม. วารสารวิธีวิทยาการวิจัย, 24(2), 201-218.
ธีระนัน พิรุณสมุทร. (2561). โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของประสิทธิผลโรงเรียนเทศบาล. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
นฤมล เจริญพรสกุล. (2561). ปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อประสิทธิผลโรงเรียนประถมศึกษาเอกชน. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยบูรพา.
พัทธโรจน์ กมลโรจน์สิริ. (2557). ปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อประสิทธิผลโรงเรียนเอกชนในประเทศไทย. ใน ดุษฎีนิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
รำไพ ไชยยนต์. (2566). ปัจจัยเชิงสาเหตุของประสิทธิผลโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
ศิริพร ไสยฉิม. (2566). ภาวะผู้นำทางวิชาการกับประสิทธิผลโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ.
สไบภรณ์ พงศ์ศาสตร์. (2566). โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของประสิทธิผลโรงเรียนขยายโอกาสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สัมฤทธิ์ กางเพ็ง. (2551). ปัจจัยการบริหารที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของโรงเรียน: การพัฒนาและตรวจสอบความตรงของตัวแบบ. ใน ดุษฎีนิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2552). รายงานการวิจัยการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.
อนุชา เงินแพทย์. (2559). รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารและบรรยากาศโรงเรียนที่ส่งผลต่อประสิทธิผลโรงเรียนมาตรฐานสากลในประเทศไทย. ใน ดุษฎีนิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ. (2554). เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงวัฒนธรรม.
Best, J. W. & Kahn, J. V. (2014). Research in education. (10th ed.). New York: Pearson.
Byrne, B. M. (2010). Structural equation modeling with AMOS: Basic concepts, applications, and programming. (2nd ed.). New York: Routledge.
Campbell, D. T. & Stanley, J. C. (1963). Experimental and quasi-experimental designs for research. Boston: Houghton Mifflin.
Creswell, J. W. & Creswell, J. D. (2018). Research design: Qualitative, quantitative, and mixed methods approaches. (5th ed.). Thousand Oaks: SAGE.
Fullan, M. (2007). The new meaning of educational change. (4th ed.). New York: Teachers College Press.
Hair, J. F. et al. (2019). Multivariate data analysis. (8th ed.). Andover: Cengage Learning.
Hallinger, P. & Heck, R. H. (2010). Leadership for Learning: Does Collaborative Leadership Make a Difference in School Improvement. Educational Management Administration and Leadership, 38(6), 654-678.
Hoy, W. K. & Miskel, C. G. (2013). Educational administration: Theory, research, and practice. (9th ed.). New York: McGraw-Hill.
Hunter, J. E. & Schmidt, F. L. (2004). Methods of meta-analysis: Correcting error and bias in research findings. (2nd ed.). Thousand Oaks: SAGE Publications.
Klein, S. (1991). Educational effectiveness in schools. New York: Academic Press.
Kline, R. B. (2016). Principles and practice of structural equation modeling. (4th ed.). New York: Guilford Press.
Lynn, M. R. (1986). Determination and quantification of content validity. Nursing Research, 35(6), 382-385.
Nunnally, J. C. & Bernstein, I. H. (1994). Psychometric theory. (3rd ed.). New York: McGraw-Hill.
Sammons, P. & Bakkum, L. (2011). Effective schools, equity and teacher effectiveness: A review of the international literature. Profesorado Revista de curriculum y formacion del profesorado, 15(3), 9-26.
Scheerens, J. (2016). Educational effectiveness and ineffectiveness: A critical review of the knowledge base. Dordrecht, Netherlands: Springer.
Teddlie, C. & Reynolds, D. (2000). The international handbook of school effectiveness research. London: Falmer Press.
Viswesvaran, C. & Ones, D. S. (1995). Theory testing: Combining meta-analysis and structural equation modeling. Personnel Psychology, 48(4), 865-885.
Wallin, D. (2003). Organizational effectiveness and quality of work life. Journal of Educational Administration, 41(1), 50-65.