ปัจจัยเชิงสาเหตุพหุระดับที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุพหุระดับที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) พัฒนารูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุพหุระดับที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 3) ตรวจสอบความสอดคล้องระหว่างรูปแบบความสัมพันธ์เชิงสมมติฐานกับข้อมูลเชิงประจักษ์โดยการวิเคราะห์โมเดลโครงสร้างพหุระดับ เป็นวิธีการวิจัยเชิงปริมาณ โดยการได้มาซึ่งตัวอย่างแบบสุ่มหลายขั้นตอน กลุ่มตัวอย่างมี 3 กลุ่ม คือ 1) ผู้บริหาร 2) ครูผู้สอน และ 3) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1,614 คน เครื่องมือเป็นแบบสอบถาม และแบบทดสอบ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยเชิงสาเหตุพหุระดับ ได้แก่ 1.1) ระดับโรงเรียนมีปัจจัยที่มีอิทธิพล คือ สภาพแวดล้อมสถานศึกษาที่ส่งผลทางตรงในด้านสมรรถนะขององค์กร 1.2) ระดับห้องเรียนมีปัจจัยที่มีอิทธิพล คือ บรรยากาศชั้นเรียนและพฤติกรรมการสอนครูที่ส่งผลโดยตรงด้านคุณภาพการสอน และ 1.3) ระดับนักเรียนมีปัจจัยที่มีอิทธิพล คือ เจตคติต่อการเรียนและการส่งเสริมผู้ปกครองที่ส่งผลทางตรง ในด้านพื้นฐานความรู้เดิมและแรงจูงใจ 2) การพัฒนารูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุพหุระดับที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ พบว่า รูปแบบมีความตรงเชิงโครงสร้างและสามารถแสดงความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ และ 3) การตรวจสอบความสอดคล้องความสัมพันธ์เชิงสาเหตุแบบพหุระดับ พบว่า รูปแบบมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ค่าสถิติ คือ = 449.501, df = 362, p = 0.059, CFI = 0.995, TLI = 0.991, RMSEA = 0.036, SRMRw = 0.003, SRMRc = 0.037, SRMRsc = 0.048 และ
/df = 1.242 มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
จารุวรรณ วงษ์แก้ว. (2562). การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้กลวิธีการอ่านแบบร่วมมือ ผ่านบทอ่านข้อมูลท้องถิ่นจังหวัดกาญจนบุรีสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. ใน วิทยานิพนธ์ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ต่วนยามีลา อัลอิดรุส และคณะ. (2564). การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แบบฝึกตามแนวการจัดการเรียนรู้ของเมอร์ด็อค (MIA) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ฝ่ายมัธยมศึกษา). วารสารภาวนาสารปริทัศน์, 1(2), 29-44.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย เล่ม 1. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาการพิมพ์.
ปิยพร เกื้ออนันต์. (2564). การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านและการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้วิธีการสอนแบบโฟนิกส์ร่วมกับการใช้สื่อประสม การเสริมแรง และเพื่อนช่วยเพื่อน. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิจัยหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
มณัญญา มานะรัชศักดิ์. (2565). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารและความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา. ใน ดุษฎีนิพนธ์รปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน (กลุ่มหลักสูตรและการนิเทศ). มหาวิทยาลัยศิลปากร.
เมธินี พวงสังวาล และคณะ. (2567). การพัฒนาความสามารถในการอ่านออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษและแรงจูงใจในการเรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบโฟนิกส์ร่วมกับเกมการศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์, 9(2), 407-420.
วงษ์สิริ เรืองศรี และคณะ. (2565). การประยุกต์ใช้วัฒนธรรมมโนราห์เป็นฐานในการส่งเสริมการศึกษาของเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาในชุมชนบ้านปากลัดตำบลทุ่งหลวงอำเภอเวียงสระ จังหวัด สุราษฎร์ธานี. วารสารสังคมพัฒนศาสตร์, 5(2), 59-78.
วิโรจน์ วิจิตรธำรงศักดิ์. (2565). การศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุพหุระดับที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อจัดทำแผนจัดประสบการณ์การเรียนรู้การทำโครงงานบูรณาการการเรียนรู้ร่วมกันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนมาตรฐานสากลที่เข้าร่วมโครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก (V-Star). ใน ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์ สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
วีรพล แสงปัญญา. (2561). จิตวิทยาการเรียนการสอน. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
แวววัน มนูธาราม. (2564). การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนอ่านของเมอร์ด็อก (MIA) ร่วมกับเทคนิคหมวก 6 ใบ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ศราวุฒิ เวียงอินทร์ และคณะ. (2560). การพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจด้วยเนื้อหาตามบริบทท้องถิ่นโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคจิ๊กซอว์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. ใน เอกสารการประชุมวิชาการระดับบัณฑิตศึกษาครั้งที่ 2. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน. (2561). การบริหารโรงเรียนเอกชน. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน.
สำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. (2567). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2567. เรียกใช้เมื่อ 29 สิงหาคม 2568 จาก https://boet.obec.go.th/list/nt-rt/
อักษราภัคส์ โกสินรุ่งเรือง. (2564). การพัฒนาโมเดลสมการโครงสร้างพหุระดับของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ของนักเรียนมัธยมศึกษา. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสถิติและสารสนเทศการศึกษา ภาควิชาวิจัยและจิตวิทยาการศึกษา. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Cronbach, L. J. (1990). Essentials of psychological testing. (5th ed.). New York: Harper Collins. Publishers.
Humaida, I. A. I. (2012). Research On: Motivation to Learn English among College Students in Sudan. English Language Teaching, 5(8), 49-56.
Likert, R. (1967). “The Method of Constructing and Attitude Scale”. In Reading in Fishbeic, M (Ed.), Attitude Theory and Measurement (pp. 39-42). New York: Wiley & Son.
Murdoch, G. (1986). A more Integrated Approach to the Teaching of Reading. English Teaching Forum, 34(11), 9-15.
Singsorn, N. et al. (2023). Community-Based Lifelong Learning According To The Buddhist Way: A Case Study of Wat Pa Lelaik Worawihan, Mueang District, Suphanburi Province. Journal of Buddhist Anthropology, 8(4), 315-325.