การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดเลย

Main Article Content

อาภาพร จันทะนาม
บุญช่วย ศิริเกษ
พิมพ์อร สดเอี่ยม

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความต้องการจำเป็นในการบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 2) พัฒนารูปแบบการบริหาร และ 3) ประเมินผลทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดเลย ใช้ระเบียบวิธีวิจัยและพัฒนา แบ่งเป็น 3 ระยะ ระยะแรกเป็นการศึกษาความต้องการจำเป็นโดยใช้แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นครู ครูผู้ช่วย และพนักงานราชการ จำนวน 335 คน สุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของเครจซี่ และมอร์แกน ร่วมกับการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้บริหารและครู จำนวน 18 คน ระยะที่สองเป็นการพัฒนารูปแบบโดยการสนทนากลุ่มของผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในขั้นตอนของการร่างและการยืนยันรูปแบบ และใช้ผู้เชี่ยวชาญประเมินความเหมาะสม ความสอดคล้อง ความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ และระยะที่สามเป็นการประเมินผลการทดลองใช้รูปแบบโดยผู้ปฏิบัติด้วยวิธีการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ PNI Modified และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหาและอภิปรายผลโดยพรรณนาวิธี ผลการวิจัย พบว่า 1) การสนับสนุนการสื่อสารข้อมูลเชิงรุก (PNImodified = .49908) เป็นประเด็นที่มีความต้องการจำเป็นสูงสุด 2) รูปแบบที่พัฒนาขึ้นเรียกว่า CAMPSD-Process Model เป็นรูปแบบเชิงระบบ ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ คือ 2.1) ปัจจัยนำเข้า 2.2) กระบวนการ ที่เรียกว่า CAMPSD Process 2.3) ผลลัพธ์ และ 2.4) ข้อมูลป้อนกลับ และ 3) ผลทดลองใช้รูปแบบ พบว่า ผู้บริหารมีความรู้และความเข้าใจในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกได้เป็นอย่างดี ครูมีความพึงพอใจ มีผลงาน และสามารถพัฒนานักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
จันทะนาม อ. ., ศิริเกษ บ. ., & สดเอี่ยม พ. . (2025). การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดเลย. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 12(9), 327–338. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/292468
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพมหานคร: องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.).

ไทยโพสต์. (2565). ตรีนุช โชว์หลักฐานขับเคลื่อนปฏิรูปอบรมครู-สอนแบบ Active Learning นร.กว่า 2 แสน. เรียกใช้เมื่อ 20 พฤษภาคม 2565 จาก https://www.thaipost.net/education-news/144688/

ไทยรัฐออนไลน์. (2558). เช็กความพร้อม! ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ 3,831 โรง ดีเดย์. เรียกใช้เมื่อ 19 มิถุนายน 2565 จาก https://www.thairath.co.th/content/536176

ไทยรัฐออนไลน์. (2564). ปักหมุดกระทรวงศึกษาธิการก้าวข้ามโควิด-19 ชูธงขับเคลี่อน “Active Learning”. หมวดข่าวทั่วไทย. เรียกใช้เมื่อ 20 มิถุนายน 2565 จาก https://shorturl.asia/gVcSy

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. (2545). ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 119 ตอนที่ 123 ก หน้า 16 - 21 (19 ธันวาคม 2545).

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553. (2553). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 127 ตอนที่ 45 ก หน้า 1 - 3 (22 กรกฎาคม 2553).

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562. (2562). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 136 ตอนที่ 57 ก หน้า 49 - 53 (1 พฤษภาคม 2562).

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. (2542). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนที่ 74 ก หน้า 1 - 20 (19 สิงหาคม 2542).

วัฒนชัย วินิจจะกูล. (2018). ผลของการบริหารแบบมีส่วนร่วมต่อประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏ.

ศุภชัย สมนวล. (2565). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อส่งเสริมสมรรถนะความเป็นพลเมืองที่เข้มแข็งของนักเรียนชั้นประถมศึกษา. ใน ดุษฎีนิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการทางการศึกษาและการจัดการเรียนรู้. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

สถาพร พฤฑฒิกุล. (2555). คุณภาพผู้เรียนเกิดจากกระบวนการเรียนรู้ (Quality of students derived from active learning). วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา, 6(2), 1-15.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2561). การพัฒนากลไกขับเคลื่อนระบบการผลิตและพัฒนาครู สมรรถนะสูงสำหรับประเทศไทย 4. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: บริษัทพริกหวาน จำกัด.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2562). รายงานการปฏิรูปการเรียนรู้เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2563). แนวทางการพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะ. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ.

สุนทร โคตรบรรเทา. (2551). หลักการและทฤษฎีการบริหารการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: ปัญญาชน.

อรไท แสงลุน และมนสิช สิทธิสมบูรณ์. (2564). การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโดยใช้การศึกษาชั้นเรียนผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ. ใน ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยนเรศวร.

อุทัย บุญประเสริฐ. (2545). การบริหารจัดการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Kongkaew, P. (2020). การจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาทักษะศตวรรษที่ 21. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์การศึกษา.

Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.

Likert, R. (1961). New Patterns of Management. New York: McGraw-Hill Book Company Inc.

Miles, M. B. & Huberman, A. M. (1994). Qualitative Data Analysis: An Expanded Sourcebook. Thousand Oaks, California: Sage Publications.

OECD. (2018). The Future of Education and Skills: Education 2030. Paris: OECD Publishing.

Sopa, N. & Wongsawat, S. (2021). การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมในโรงเรียนขนาดเล็ก. วารสารวิจัยการบริหารการศึกษา, 15(1), 78-95.

Trilling, B. & Fadel, C. (2009). 21st Century Skills: Learning for Life in Our Times. San Francisco: Jossey-Bass.