การสื่อสารนโยบายการกระจายอำนาจของพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566

Main Article Content

ชนะทัศน์ นาคจั่น
กานต์ บุญศิริ
วิทยาธร ท่อแก้ว
กุลธิดา ธรรมวิภัชน์

บทคัดย่อ

การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์นโยบายการกระจายอำนาจ วิธีการและสื่อที่ใช้ในการนำเสนอนโยบาย ตรวจสอบระดับการรับรู้ของประชาชน เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาการสื่อสารนโยบายที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการยกระดับประสิทธิภาพการสื่อสารทางการเมืองและการกำหนดนโยบายสาธารณะในอนาคต โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน ทั้งเชิงปริมาณจากแบบสอบถาม และเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้บริหารพรรคก้าวไกลและนักวิชาการ ผลการวิจัยพบว่า นโยบายการกระจายอำนาจของพรรคก้าวไกลมุ่งยุติระบบราชการรวมศูนย์ โดยเสนอให้ท้องถิ่นมีบทบาทหลักในการให้บริการสาธารณะผ่าน 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ งาน เงิน คน และผู้ว่าเลือกตั้ง โดยอิงแนวคิด Negative List และส่งเสริมการตัดสินใจในระดับท้องถิ่น วิธีการและสื่อที่ใช้ ประกอบด้วย สื่อดั้งเดิม (ป้ายหาเสียง โทรทัศน์) สื่อสังคมออนไลน์ (Facebook, YouTube, Twitter) สื่อกิจกรรม (การลงพื้นที่ ปราศรัย เวทีดีเบต) และสื่อบุคคล ระดับการรับรู้นโยบายอยู่ในระดับปานกลางค่าเฉลี่ย 2.91 นโยบายที่มีระดับการรับรู้สูงสุด คือ การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดค่าเฉลี่ย 3.29 การวิเคราะห์ความเหมาะสมของนโยบาย พบว่า ประชาชนมีระดับความคิดเห็นในระดับสูงต่อประเด็นความโปร่งใสของท้องถิ่นค่าเฉลี่ย 3.83 ลักษณะประชากร อายุ การศึกษา และอาชีพ มีผลต่อระดับการรับรู้นโยบายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เพศและรายได้ไม่มีผลต่อระดับการรับรู้ ช่องทางการสื่อสารที่แตกต่างกันมีผลต่อระดับการรับรู้ของประชาชน ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย การปฏิรูประบบราชการและกฎหมายให้เอื้อต่อการกระจายอำนาจ การกำหนดสถานะข้าราชการท้องถิ่นให้เทียบเท่าข้าราชการพลเรือน ข้อเสนอเชิงปฏิบัติเน้นการออกแบบเนื้อหานโยบายที่กระชับ ใช้ภาษาง่าย เลือกสื่อให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย และมีระบบประเมินผลการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
นาคจั่น ช. ., บุญศิริ ก. ., ท่อแก้ว ว. ., & ธรรมวิภัชน์ ก. . (2025). การสื่อสารนโยบายการกระจายอำนาจของพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 12(8), 306–315. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/292133
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ธนัตณ์พัทธ์ อิทธิพัทธ์อเนก. (2563). การศึกษาเปรียบเทียบแนวทางการหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐและพรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2562 เขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดจันทบุรี. ใน วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองการปกครอง. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ปริญญา เจริญถ่องแท้ และผกาวดี สุพรรณจิตวนา. (2567). การสื่อสารกับการตัดสินใจเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดจันทบุรี. เรียกใช้เมื่อ 13 ตุลาคม 2567 จาก https://url.in.th/MYPBG

สุรพงษ์ โสธนะเสถียร. (2563). ทฤษฎีการสื่อสาร: แนวคิดและพัฒนาการทางความคิดทางด้านการสื่อสาร. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

Berlo, D. K. (1960). The process of communication: An introduction to theory and practice. New York: Holt, Rinehart and Winston.

Castells, M. (2000). The rise of the network society. Oxford, United Kingdom: Wiley-Blackwell.

McGuire, W. J. (1985). Attitudes and attitude change. In G. Lindzey & E. Aronson. New York: Random House.

McNair, B. (1995). An introduction to political communication. London: Routledge.

Ndavula, J. O. & Mueni, J. (2014). New media and political marketing in Kenya: The case of 2013 general elections. International Journal of Arts and Commerce, 3(6), 69-84.

Oates, W. E. (1972). Fiscal federalism. New York: Harcourt Brace Jovanovich.

Ostrom, E. (1990). Governing the commons: The evolution of institutions for collective action. Cambridge, United Kingdom: Cambridge University Press.

Yamane, T. (1973). Statistics: An introductory analysis. New York: Harper & Row.