การพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนเอกชนระดับปฐมวัย เพื่อเสริมสร้างทักษะนวัตกรในเด็ก

Main Article Content

พิชญนันท์ วงษ์เนียม
วราภรณ์ ไทยมา
ภัทราวดี มากมี

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนเอกชนระดับปฐมวัย ที่ส่งเสริม ทักษะนวัตกรในเด็ก และ เพื่อประเมินความ เหมาะสม ความถูกต้อง ความเป็นไปได้ และประโยชน์ใช้สอยของรูปแบบการบริหารที่พัฒนาขึ้น โดยใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสมวิธีพหุระยะ (Multi - Phase Mixed Methods Research) โดยการดำเนินการวิจัยแบ่ง ออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะแรก พัฒนารูปแบบจากการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ 14 คน ระยะที่สอง ประเมินรูปแบบโดยการสนทนากลุ่มและตอบแบบประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ 12 คน ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการบริหาร ประกอบด้วย 4 ด้านหลัก ได้แก่ การบริหารวิชาการ การบริหารบุคลากร การบริหารงบประมาณ และการบริหารทั่วไป โดยแต่ละด้านมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพการจัดการศึกษาในระดับปฐมวัย ผลการศึกษาพบว่า ภาพรวมของความเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยด้านความถูกต้องมีค่าเฉลี่ย 4.72 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.41 เนื้อหาสอดคล้องกับหลักวิชาการและแนวคิดการบริหารโรงเรียนเอกชนระดับปฐมวัยเพื่อเสริมสร้างทักษะนวัตกรอย่างครบถ้วน ด้านความเหมาะสมมีค่าเฉลี่ย 4.81 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.37 แบบมีความสอดคล้องกับบริบทการดำเนินงานและสามารถนำไปใช้ได้จริงในสถานศึกษา ด้านความเป็นไปได้มีค่าเฉลี่ย 4.78 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.39 ศักยภาพของรูปแบบในการประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและด้านความเป็นประโยชน์มีค่าเฉลี่ย 4.85 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.35 ซึ่งสูงที่สุด รูปแบบนี้สามารถยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการและสภาพสังคมในยุคปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นแนวทางที่ช่วยพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความพร้อมต่อการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะนวัตกรอย่างเป็นระบบ สามารถประยุกต์ใช้ได้ทั้งในโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนในสังกัดอื่น ๆ เพื่อยกระดับมาตรฐานการศึกษาปฐมวัย

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วงษ์เนียม พ. ., ไทยมา ว. ., & มากมี ภ. . (2025). การพัฒนารูปแบบการบริหารโรงเรียนเอกชนระดับปฐมวัย เพื่อเสริมสร้างทักษะนวัตกรในเด็ก. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 12(8), 237–247. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/292064
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ญาณิศา บุญจิตร์. (2565). รูปแบบการบริหารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อเสริมสร้างความเป็นนวัตกรของผู้เรียน. วารสารรัชติภาคย์, 16(49), 114-129.

ฐิติมา ญาณะวงษา และคณะ. (2564). หลักสูตรที่เน้นผลลัพธ์: ใหม่สำหรับหลักสูตรอุดมศึกษา. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 15(2), 279-291.

ธันยพร มณีฉาย และคณะ. (2557). การบริหารโรงเรียนเอกชนสู่ความเป็นเลิศสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์, 7(1), 751-764.

ธีระ รุญเจริญ. (2557). ความเป็นมืออาชีพในการจัดและบริหารการศึกษายุคปฏิรูปการศึกษา (ฉบับปรับปรุง) เพื่อปฏิรูปรอบ 2 และประเมินภายนอกรอบ 3. (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพมหานคร: บริษัทสำนักพิมพ์ข้าวฟ่างจำกัด.

เบญญาภา วิไลวรรณ. (2566). นวัตกรรมการบริหารวิชาการโรงเรียนอนุบาลตามแนวคิดทักษะของนวัตกร. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ปาจรีย์ นาคะประทีป และคณะ. (2564). การบริหารทรัพยากรมนุษย์สำหรับโรงเรียนเอกชน. วารสารวิชาการวิทยาลัยสันตพล, 7(2), 208-216.

ผู้อำนวยการโรงเรียน. (29 พ.ค. 2568). ผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการภาค 1. (พิชญนันท์ วงษ์เนียม, ผู้สัมภาษณ์)

รองผู้อำนวยการฝ่ายนิเทศก์สัมพันธ์. (10 มิ.ย. 2568). รองผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการภาค 1. (พิชญนันท์ วงษ์เนียม, ผู้สัมภาษณ์)

รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ. (9 มิ.ย. 2568). รองผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการภาค 1. (พิชญนันท์ วงษ์เนียม, ผู้สัมภาษณ์)

รองผู้อำนวยการโรงเรียน. (20 พ.ค. 2568). รองผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานศึกษาธิการภาค 1. (พิชญนันท์ วงษ์เนียม, ผู้สัมภาษณ์)

ศิริธร สุตตานนท์. (2566). นวัตกรตัวน้อย: ส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์อย่างไรในวัยอนุบาล. วารสารชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพครู, 3(1), 1-15.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2553). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553. กรุงเทพมหานคร: สำนักนายกรัฐมนตรี.

Baker, S. et al. (2014). Teaching Academic Content and Literacy to English Learners in Elementary and Middle School. Retrieved August 25, 2025, from https://url.in.th/YtVRr

Sutaphan, S. & Yuenyong, C. (2023). Enhancing grade eight students’ creative thinking in the waterstem education learning unit. Cakrawala Pendidikan: Jurnal Ilmiah Pendidikan, 42(1), https://doi.org/10.21831/cp.v42i1.36621