รูปแบบการบริหารจัดการสถาบันอุดมศึกษาเอกชนเพื่อความยั่งยืน ตามแนวคิด ESG และส่วนประสมการตลาด 7P’s
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิดความยั่งยืน (ESG) และ ส่วนประสมการตลาด (7P’s) คือ 1) ศึกษารูปแบบการบริหารจัดการสถาบันอุดมศึกษาเอกชน 2) ยืนยันรูปแบบการบริหารจัดการสถาบัน อุดมศึกษาเอกชน กลุ่มตัวอย่างได้จาก 5 อันดับแรก ของ 2 เว็บไซต์ คือ Webometrics Ranking of World Universities และ UniRank University Ranking คือ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย วิธีวิจัยเป็นแบบบผสมผสานแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 วิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือเป็นแบบฟอร์มการสัมภาษณ์เชิงลึก จำนวน 10 ข้อ เป็นผู้บริหารระดับสูง 5 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน รวม 10 คน และระยะที่ 2 วิจัยเชิงปริมาณ เครื่องมือใช้แบบตรวจสอบ 30 รายการ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน การหาคุณภาพเครื่องมือใช้วิธีหาจากความตรงเชิงเนื้อหา โดยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 5 คน เพื่อให้ข้อคำถามแต่ละข้อและทั้งฉบับมี่ค่าเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาเท่ากับ 1.00 การทดลองใช้ได้ผลความน่าเชื่อถือ 0.852 - 0.933 และความน่าเชื่อถือโดยรวม คือ 0.925 ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา และสถิติเชิงบรรยาย เป็นความถี่และร้อยละ ผลการศึกษาพบว่า 1) ผลในระยะที่ 1 กลุ่มตัวอย่างเห็นว่า ส่วนประสมการตลาด (7P’s) คือ ผลิตภัณฑ์ ราคา ช่องทางการจัดจำหน่าย การส่งเสริมการจัดจำหน่าย บุคคล กระบวนการและกายภาพและการนำเสนอ และ หลักการการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) คือ สิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล นำมาใช้ร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้มั่นคงในระยะยาว 2) ผลในระยะที่ 2 ยืนยันว่ารายการตรวจสอบสะท้อนการบริหารจัดการที่ยั่งยืนได้ครบถ้วน ผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คนเห็นด้วย 7 คน และร้อยละ 100 พบว่า สถาบันเอกชนบางแห่งที่นำ 2 ทฤษฎีมาใช้เต็มรูปแบบสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาได้จริงและเห็นอย่างเป็นรูปธรรม
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. (2565). กฎกระทรวง: มาตรฐานการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2565. เรียกใช้เมื่อ 7 เมษายน 2568 จาก https://shorturl.asia/Y02nX
กันตรัตน์ สุจิตวนิช และวัลลภา เฉลิมวงศาเวช. (2564). ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกโรงเรียนสองภาษาเอกชน A ของผู้ปกครองสำหรับบุตรหลานในจังหวัดปทุมธานี. วารสารบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 17(2), 1-16.
กานต์ธิดา เนตรวิภาดา. (2561). การศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดและพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนในเชิงเปรียบเทียบตามลักษณะประชากรศาสตร์. ใน วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาพาณิชยศาสตร์และการบัญชี. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
จำเนียร จวงตระกูล. (2562). โลกป่วน คนเปลี่ยน งานแปลก วิธีการทำงานแบบใหม่: ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์จะปรับตัวอย่างไรให้อยู่รอด. วารสารวิชาการแพรวากาฬสินธุ์ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์, 6(3), 331-345.
ชัยวัฒน์ ขัตติวงค์ และพุฒิธร จิรายุส. (2561). ปัจจัยด้านการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีของนักศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษาเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่. วารสารวิทยาลัยดุสิตธานี, 12(3), 382-396.
นงนภัส คู่วรัญญู เที่ยงกมล. (2553). สิ่งแวดล้อมและการพัฒนา เล่ม 1. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นงนภัส คู่วรัญญู เที่ยงกมล. (2554). การวิจัยเชิงบูรณาการแบบองค์รวม. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
น้ำทิพย์ เนียมหอม. (2560). ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกศึกษาต่ออาชีวศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีวิบูลย์บริหารธุรกิจ รามอินทรา. ใน วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ. มหาวิทยาลัยเกริก.
ประยูร ตระการ. (2565). วิสัยทัศน์ของผู้บริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ. วารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์, 3(1), 23-40.
พรรณี ลีกิจวัฒนะ. (2558). วิธีการวิจัยทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพมหานคร: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง.
ยืน ภู่วรวรรณ. (2562). เทคโนโลยีที่สร้างความพลิกผัน (Disruptive Technology). เรียกใช้เมื่อ 7 เมษายน 2568 จาก https://www.thailibrary.in.th/2019/03/01/disruptive-tech-2/
วิจิตร ศรีสะอ้าน. (2518). หลักการอุดมศึกษา. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.
ศรุดา ชัยสุวรรณ และคณะ. (2563). ความอยู่รอดปลอดภัยในภาวะชะลอตัวของมหาวิทยาลัยเอกชนไทย. วารสารวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ, 15(2), 686-702.
ศิริพงศ์ รักใหม่ และคณะ. (2562). แนวโน้มสถาบันอุดมศึกษาเอกชน : ทางเลือกแห่งอนาคต. วารสารวิทยาลัยดุสิตธานี, 13(1), 250-269.
สมศักดิ์ มิตะถา. (2562). การอุดมศึกษาในยุคของความเปลี่ยนแปลง. ใน โครงการสัมมนาความร่วมมือระหว่างห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา ครั้งที่ 34 (6 - 7 มิถุนายน พ.ศ. 2562). มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย.
สรรพสิทธิ์ แก้วเฮ้า. (2563). การจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์.
อาทิตย์ พวงนาค. (2560). ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการ. โฮสเทลในเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร. ใน วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการโรงแรมและภัตตาคาร. วิทยาลัยดุสิตธานี.
อุราเพ็ญ ยิ้มประเสริฐ และณตา ทับทิมจรูญ. (2558). พัฒนากลยุทธ์การตลาดของสถาบันการศึกษาที่มีความเชื่อมโยงกับธุรกิจด้วยวิธีการเทียบรอยคุณภาพ. WMS Journal of Management Walailak University, 4(2), 31-40.
Alenezi, M. & Alanazi, F. K. (2024). Integrating environmental, social, and governance values Into the higher education curriculum. International Journal of Evaluation and Research in Education (IJERE), 13(5), 3493-3503.
Creswell, J. W. (2014). Research Design: Qualitative, Quantitative, and Mixed Methods Approache. (4th ed.). Thousand Oaks: Sage.
Cronbach, J. (1951). Coefficient alpha and the internal structure of tests. Psychometrika, 16(3), 297-334.
Doppelt, B. (2017). Leading Change toward Sustainability: A Change-Management Guide for Business, Government and Civil Society. London: Routledge.
Emekci, S. (2019). "Green consumption behaviors of consumers within the scope of TPB.". Simge, Journal of Consumer Marketing, 36(3), 410-417.
Hair, J. et al. (2010). Multivariate Data Analysis. (10th ed). New Jersey: Prentice Hall.
Houfen, W. (2006). Green Marketing. Beijing: Higher Education Press.
Igbomora, E. (2024). The effect of green packaging on consumers' buying behavior. Journal of Economics and Social Research, 24(1), 111-123.
Saini, P. et al. (2022). Students' Perception about 7P’s of Higher Education Marketing Mix in Private Universities in Uttarakhand. Business Studies Journal, 14(5), 1-13.