กลยุทธ์การจัดการทุนมนุษย์สู่การเป็นองค์การนวัตกรรม : กรณีศึกษากรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษากลยุทธ์การจัดการทุนมนุษย์ของกรุงเทพมหานครสู่การเป็นองค์การนวัตกรรม 2) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อกลยุทธ์การจัดการทุนมนุษย์ของกรุงเทพมหานคร และ 3) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนากลยุทธ์ด้านการจัดการทุนมนุษย์ของกรุงเทพมหานครเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 312 คน ขนาดของตัวอย่างตามหลักการของเครซี่และมอร์แกนสุ่มตัวอย่างแบบความน่าจะเป็น ด้วยการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ โดยแบ่งตามสัดส่วน แล้วดำเนินการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นแบบสอบถาม เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 14 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 ใช้วิธีวิเคราะห์ข้อมูลเชิงอนุมาน ผลการวิจัยพบว่า บุคลากรที่ปฏิบัติงาน ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครที่เป็นกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 35 - 44 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี ตำแหน่งผู้ปฏิบัติงาน ประสบการณ์การทำงานอยู่ระหว่าง 3 - 10 ปี กลยุทธ์การจัดการทุนมนุษย์ของกรุงเทพมหานครสู่การเป็นองค์การนวัตกรรมในภาพรวมเกือบทุกด้านมีการปฏิบัติอยู่ในระดับที่ดี มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 3.74 ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อกลยุทธ์การจัดการทุนมนุษย์สู่การเป็นองค์การนวัตกรรม พบว่า ด้านองค์ความรู้มีผลอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.23 แนวทางการพัฒนาการจัดการทุนมนุษย์สู่การเป็นองค์การนวัตกรรมมี 6 แนวทาง ดังนี้ 1) ควรมีการจัดตั้งหน่วยงานการสร้าง และพัฒนานวัตกรรม 2) การสร้างความเข้าใจในเรื่องนวัตกรรมให้กับบุคลากรทุกระดับ 3) ควรสนับสนุนการคิดเชิงนวัตกรรมให้เป็นวัฒนธรรมองค์การ 4) ควร “จัดตั้งทีมนวัตกรรม” 5) ให้มีการจัดประกวดผลงานนวัตกรรมประจำปี 6) การสร้างเครือข่ายและมีพันธมิตรในการสร้างสรรค์นวัตกรรม
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
แก้วตา ผู้พัฒนพงศ์. (2563). ผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคาร. วารสารรัชต์ภาคย์, 14(34), 86-100.
จิรประภา อัครบวร. (2565). งานทรัพยากรมนุษย์ในยุค 5.0 . กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์กรกนกการพิมพ์.
นิสดารก์ เวชยานนท์,. (2556). การบริหารทุนมนุษย์เชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มมูลค่า. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: เดอะ กราฟิโก ซิสเต็มส์.
พสุธิดา ตันตราจิณ และคณะ. (2559). การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างศักยภาพการเป็นผู้นำของบุคลากรรุ่นใหม่เพื่อมุ่งสู่องค์การแห่งการเรียนรู้ในธุรกิจการประกันภัย. Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ, 9(2), 169-193.
พิบูล ทีปะปาล และธนวัฒน์ ทีปะปาล. (2559). การจัดการเชิงกลยุทธ์ (ปรับปรุงใหม่). กรุงเทพมหานคร: อมรการพิมพ์.
สุรเดช จองวรรณศิริ. (2562). การจัดการสู่องค์การนวัตกรรม. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน).
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร. (2565). รายงานการบริหารทรัพยากรบุคคลกรุงเทพมหานครประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565. เรียกใช้เมื่อ 16 พฤษภาคม 2566 จาก https://bma-csc.bangkok.go.th/csc/report-hr/
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ. (2563). ความหมายของนวัตกรรม. เรียกใช้เมื่อ 16 กันยายน 2567 จาก https://www.nia.or.th/Info-NIAMOOCs
อุทัย เลาหวิเชียร. (2561). การบริหารงานภาครัฐในมิติต่าง ๆ ของไทย. กรุงเทพมหานคร: นราธิป พริ้นติ้ง.
Armstrong, M. (2006). Strategic human resource management: A guide to action. (4th ed.). Philadelphia: Kogan Page.
Cronbach, L. J. (1970). Essentials of psychological testing. (3rd ed.). New York: Harper& Row.
Holder, B. J. & Matter, G. (2008). The Innovative Organization. Retrieved December 11, 2016, from https://ifi.nia.or.th/wp-content/uploads/2020/09/Innovative-Organization-BOK_digital_08-2020.pdf
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Lynn, M. C. (1986). Determination and quantification of content validity. Nursing Rescarch, 35(6), 382-385.
Noe, R. A. et al. (2006). Human Resource Management: Gaining a Competitive Advantage. (5th ed.). New York: McGraw-Hill.
Tilden, V. P. et al. (1990). Use of quantitative methods to enhance content validity. Nursing Research, 39(3), 172-175.
Waterman, R. et al. (1983). In Search of Excellence: Lessons From America's Best-Run Companies. Administrative Science Quarterly, 28(4), 621-624.
Wei, Y. (2013). Towards an effective management model for high-end human capital : A Taiwanese SME case study. Journal of Business Management and Economic Research, 4(6), 835-838.