การประเมินความต้องการจำเป็นขวัญกำลังใจ ของครูผู้ปฏิบัติงานในเขตพื้นที่พิเศษ จังหวัดเชียงใหม่

Main Article Content

ปาริชาต พรหมชนะ
ณัฐพล แจ้งอักษร

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและประเมินความต้องการจำเป็นในการเสริมสร้างขวัญกำลังใจของครูในเขตพื้นที่พิเศษ จังหวัดเชียงใหม่ การศึกษาวิจัยนี้ใช้วิธีวิจัยแบบสำรวจ กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย ครูในเขตพื้นที่พิเศษ จำนวน 430 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น จำแนกตามประเภทโรงเรียนในเขตพื้นที่พิเศษ 4 ประเภท ได้แก่ โรงเรียนในพื้นที่ทุรกันดาร โรงเรียนในพื้นที่มีชนกลุ่มน้อย โรงเรียนพื้นที่บนภูเขา และโรงเรียนในพื้นที่ชายแดน จากนั้นสุ่มแบบเป็นสัดส่วนได้โรงเรียนในแต่ละประเภท จำนวน 26 โรงเรียน 15 โรงเรียน 71 โรงเรียน และ 12 โรงเรียน ตามลำดับ ทำการสุ่มอย่างง่ายเพื่อให้ได้ครูตามขนาดตัวอย่างที่กำหนด โดยใช้ตารางของ ทาโร่ ยามาเน่ ที่ระดับความคลาดเคลื่อน .05 ได้ตัวอย่างไม่น้อยกว่า 358 คน ทั้งนี้ ได้เพิ่มขนาดตัวอย่างอีกร้อยละ 20 เพื่อป้องกันการขาดหายของข้อมูลอีก 72 คนรวมเป็น 430 คน เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 คน โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง 0.8 - 1.0 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.994 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และดัชนีการจัดลำดับความต้องการจำเป็นแบบปรับปรุง ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัจจุบันของขวัญกำลังใจของครูในภาพรวมอยู่ในระดับน้อย (equation = 2.603, S.D. = 0.284) สภาพการปฏิบัติงานมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด (equation = 2.797, S.D. = 0.330) และความพึงพอใจในการทำงานมีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด (equation = 2.519, S.D. = 0.302) สำหรับความต้องการจำเป็น พบว่า ด้านความพึงพอใจในการทำงานมีค่าดัชนีความต้องการจำเป็นสูงที่สุด (PNIModified = 0.687) รองลงมา คือ ด้านความเพียงพอของเงินเดือนและสวัสดิการ (PNIModified = 0.648) และด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน (PNIModified = 0.630) ตามลำดับ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
พรหมชนะ ป. ., & แจ้งอักษร ณ. . (2025). การประเมินความต้องการจำเป็นขวัญกำลังใจ ของครูผู้ปฏิบัติงานในเขตพื้นที่พิเศษ จังหวัดเชียงใหม่. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 12(4), 181–190. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/287760
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ชนิตา รักษ์พลเมือง. (2547). สภาวะการขาดแคลนครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศไทย. ใน รายงานการวิจัย เอกสารโดยเงินสนับสนุนของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. กระทรวงศึกษาธิการ.

ทิพย์วิมล ณุวงษ์ศรี. (2565). การศึกษาสภาพขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต 1. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น ฉบับปรับปรุงใหม่. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาสน์.

พนารัตน์ ชื่นอารมย์. (2562). ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.

มารียะ สาเระ. (2566). ขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของครู โรงเรียนในอำเภอสุไหงโก-ลก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2. ใน สารนิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.

เยาวลักษณ์ เกสรเกศรา และคณะ. (2567). กระบวนทัศน์การบริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อความเท่าเทียมโรงเรียนพื้นที่สูงในถิ่นทุรกันดาร จังหวัดเชียงใหม่. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 8(12), 56-70.

รดา สังข์แก้ว และคณะ. (2566). แนวทางการสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการครูในจังหวัดนครปฐม. วารสารศึกษาษิตาลัย, 4(1), 55-68.

ศักดิ์ชัย แซ่อัง. (2565). การศึกษาขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรโรงเรียนสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษในจังหวัดลพบุรี. ใน สารนิพรธ์อิสระครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.

สุภาพร เทพสวัสดิ์ และพรศักดิ์ สุจริตรักษ์. (2567). กลยุทธ์การสร้างขวัญและกำลังใจครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา. วารสารสิรินธรปริทรรศน์, 25(2), 2000-2019.

สุวิมล ว่องวาณิช. (2560). การวิจัยการประเมินความต้องการจำเป็น. (พิมพ์ครั้งที่3). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

โสภาพรรณ ภู่ขันเงิน. (2565). การใช้พลังอำนาจของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.

Roach, D. F. (1958). Dimensions of Employee Morale. Pennsylvanea: Internation Textbook.

Coleman, J. S. (1988). Social capital in the creation of human capital. American Journal of Sociology, 94(1), 95-120.

David, G. et al. (1956). How Good is Good Morale? Factory Management and Maintenance, 3(9), 130-131.

Davis, K. (1981). Human relations at work. New York: McGraw-Hill.

Dersal, W. R. (1968). The successful supervisor in government and business. New York: Harper.

Herzberg, F. et al. (1959). The motivation to work. (2nd ed.). London: John Wiley & Sons.

Maslach, C. (1998). Prevention of burnout: New perspectives. Applied & Preventive Psychology, 7(1), 63-74.

Ratanasiripong, P. et al. (2021). Mental health and burnout among teachers in Thailand. Journal of Health Research, 36(3), 404-416.

Taro Yamane. (1973). Statistics: An introductory analysis. (3rd ed.). New York: Harper & Row.