การจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการดำเนินงานตามเกณฑ์มาตรฐานค่ายมวย ในประเทศไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ 1) ศึกษาการดำเนินงานตามมาตรฐานค่ายมวยที่คาดหวังและที่เกิดขึ้นจริง 2) ศึกษาปัจจัยคุณลักษณะบุคคล ปัจจัยคุณลักษณะองค์กรและปัจจัยการจัดการที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของการดำเนินงานตามมาตรฐานค่ายมวยในประเทศไทย กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 310 คน โดยการเทียบสัดส่วนกลุ่มตัวอย่างจากตารางเครจซี่และมอร์แกน จากนั้นใช้การสุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการจับฉลาก เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามมีค่าดัชนี มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.90 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) ลำดับความสำคัญในการพัฒนาของเกณฑ์มาตรฐานค่ายมวย (PNI) คือ มาตรฐานที่ 8 การรายงานผลการดำเนินงานประจำปีของค่ายมวย เป็นมาตรฐานที่ต้องได้รับการพัฒนาอย่างเร่งด่วนที่สุด รองลงมา คือ มาตรฐานที่ 1 โครงสร้างพื้นฐานของค่ายมวย และมาตรฐานที่ 7 การจัดการความรู้ ข้อมูลข่าวสาร และเทคโนโลยีสารสนเทศของค่ายมวย ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพของค่ายมวยให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด 2) อายุเป็นปัจจัยที่ส่งผลประสิทธิผลการดำเนินงานตามมาตรฐานของค่ายมวยในประเทศไทยมากที่สุด ขณะที่ ตำแหน่ง ระดับการศึกษา และอาชีพหลักมีผลต่อบางเกณฑ์มาตรฐานค่ายมวย ส่วน เพศ ประสบการณ์ในวงการมวย และวัตถุประสงค์ในการเปิดค่ายมวย ไม่ส่งผลประสิทธิผลการดำเนินงานตามมาตรฐานของค่ายมวยในประเทศไทย และปัจจัยคุณลักษณะบุคคล ด้านความรู้เกี่ยวกับมวยไทย ส่งผลประสิทธิผลการดำเนินงานตามมาตรฐานของค่ายมวยในประเทศไทยในทุกมาตรฐาน ยกเว้น มาตรฐานที่ 1 ด้านความเข้าใจเกี่ยวกับเกณฑ์มาตรฐาน ด้านเจตคติเกี่ยวกับค่ายมวย ปัจจัยคุณลักษณะองค์กร
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2562). รายงานสถานการณ์การส่งเสริมมวยไทยในต่างประเทศ. เรียกใช้เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2568 จาก https://www.mots.go.th
การกีฬาแห่งประเทศไทย. (2019). รายงานสถิติค่ายมวยและบุคลากรมวยไทย. เรียกใช้เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2025 จาก https://www.sat.or.th
คณะกรรมการกีฬามวย. (2024). เกณฑ์การประเมินมาตรฐานค่ายมวย ปี 2024. เรียกใช้เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2025 จาก https://www.muaythai2000.com/en/index.php?page=content&id=17691
ณัฐพล พัฒนวิทย์. (2023). อิทธิพลของช่วงวัยต่อการบริหารจัดการค่ายมวยไทย: การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน. ใน วิทยานิพนธ์หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา. มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ.
ณัฐวุฒิ จันทร์ประสิทธิ์. (2021). ปัจจัยที่มีผลต่อการรับรองมาตรฐานค่ายมวยในประเทศไทย. ใน วิทยานิพนธ์หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา. มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ.
ทศพร เจริญวงศ์. (2023). การบริหารจัดการค่ายมวยไทยด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อยกระดับศักยภาพในการแข่งขัน. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ.
พิเชษฐ์ ศิริสวัสดิ์. (2022). การพัฒนาค่ายมวยไทยผ่านสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม. ใน รายงานการวิจัย. สถาบันการพลศึกษา.
รุ่งนภา บุญรอดช. (2022). ผลกระทบของปัจจัยทางการเงินต่อประสิทธิผลการดำเนินงานของค่ายมวยไทยในประเทศไทย. Journal of Sport Administration and Development, 13(2), 102-118.
ศิริลักษณ์ บุญส่ง. (2020). เจตคติของผู้ประกอบการค่ายมวยไทยต่อการเข้าร่วมการประเมินมาตรฐานค่ายมวย. ใน รายงานการวิจัย. สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสุพรรณบุรี.
ศุภกิจ ทองคำ. (2022). การพัฒนาค่ายมวยที่มีประสิทธิผล: การบริหารจัดการทรัพยากรและการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการฝึกซ้อมนักมวย. ใน รายงานการวิจัย. สถาบันการพลศึกษา.
Cronbach, L. J. (1969). Coefficient alpha and the internal structure of tests. Psychometrika, 34(1), 35-52. http://cda.psych.uiuc.edu/psychometrika_highly_cited_articles/cronbach_1951.pdf
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.