แนวทางพัฒนาการบริหารแบบมีส่วนร่วมในสถานการณ์โควิด-19 ของคณะกรรมการบริหารและครูศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย องค์การบริหารส่วนตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพและปัญหาการบริหารแบบมีส่วนร่วมในสถานการณ์โควิด-19 ของคณะกรรมการบริหารและครูศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย องค์การบริหารส่วนตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก 2) เพื่อหาแนวทางพัฒนาการบริหารแบบมีส่วนร่วมในสถานการณ์โควิด-19 ของคณะกรรมการบริหารและครูศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย องค์การบริหารส่วนตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ประชากร ได้แก่ ผู้บริหาร หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย ครูและคณะกรรมการบริหารศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย องค์การบริหารส่วนตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก จำนวน 76 คน ผู้ให้ข้อมูลเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน เครื่องมือเป็นแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า สภาพการบริหารแบบมีส่วนร่วม โดยรวมอยู่ในระดับมาก เรียงจากสูงสุดไปหาต่ำสุด คือ การมีส่วนร่วมปฏิบัติการ การมีส่วนร่วมในผลประโยชน์ การมีส่วนร่วมตัดสินใจ และการมีส่วนร่วมประเมินผล ปัญหาที่พบในการวิจัยครั้งนี้ โดยเรียงลำดับจากสูงสุดไปหาต่ำสุด คือ ไม่มีการประชุมสร้างความเข้าใจและกำหนดบทบาท หน้าที่การดำเนินงานตามมาตรการการชี้แจงเป้าหมายและวิธีการปฏิบัติไม่ชัดเจนและรับรู้ไม่ทั่วถึง ไม่มีส่วนร่วมเสนอความคิดเห็นเพื่อพัฒนา และไม่มีการนำผลประเมินไปเปรียบเทียบกับเป้าหมาย วัตถุประสงค์ แนวทางการพัฒนา ควรจะต้องมีการประชุมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ตามมาตรการให้ชัดเจน มีการสื่อสารแจ้งข่าวที่รวดเร็ว ถูกต้อง ให้ผู้ปกครอง ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมวางแผน จัดกิจกรรม ติดตาม ประเมินผลและแก้ปัญหา ร่วมวิเคราะห์หาจุดเด่นจุดด้อยและแนวทางปรับปรุงแก้ไขพัฒนาการดำเนินงาน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
โกศล เย็นสุขใจชน. (2565). การบริหารแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารที่ส่งผลต่อการทำงานเป็นทีมของครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 10. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง.
คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019. (2564). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 138 ตอนพิเศษ 256 ง หน้า 7 (21 ตุลาคม 2564).
ไชยา หานุภาพ. (2564). การบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 3. สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร.
ธนนต์ นาครินทร์. (2564). การมีส่วนร่วมการบริหารสถานศึกษาของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ.
ธัญภิศิษฐ์ ชิดสนิท. (2565). แนวทางการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1. เชียงราย: มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย.
ธิตินันท์ กุยรัมย์. (2563). การบริหารงานศูนย์เด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย. พะเยา: มหาวิทยาลัยพะเยา.
ธีรกุล พงษ์จงมิตร. (2563). การพัฒนาแนวทางการบริหารแบบมีส่วนร่วมโดยใช้ชุมชนเป็นฐานสำหรับสถานศึกษาขนาดเล็กสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต 1. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
นภัสนันท์ จิตภักดี. (2560). รูปแบบการมีส่วนร่วมของครูในการจัดการความรู้ในสถานศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี.
รัตนา กาญจนพันธุ์. (2563). การบริหารสถานศึกษาในสถานการณ์วิกฤตไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19). วารสารดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์, 10(3), 545-556.
วชิรวิทย์ ชินะข่าย. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารแบบมีส่วนร่วมกับประสิทธิผลในการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาอำเภอเวียงแก่น สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4. พะเยา: มหาวิทยาลัยพะเยา.
สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2562). รายงานผลการพัฒนาเด็กปฐมวัย. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานรับรอง.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2562). มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.
สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตาก. (2564). แผนพัฒนาการศึกษา พ.ศ. 2563-2565 จังหวัดตาก. ตาก: กลุ่มนโยบายและแผน.
อรรถชัย กาหลง. (2564). การบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อการบริหารงานกิจการนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่ของรัฐในจังหวัดเพชรบุรี. นครปฐม: มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม.