กิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษตามรูปแบบ B - SLIM เพื่อสร้างเจตคติที่ดี ต่อภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา
Main Article Content
บทคัดย่อ
วิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิภาพของกิจกรรมในค่ายภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้วยรูปแบบ B - SLIM และ 2) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาที่มีต่อกิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้วยรูปแบบ B - SLIM วิจัยนี้เป็นวิจัยเชิงปริมาณที่มีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ชุดกิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้วยรูปแบบ B - SLIM ทั้งหมด 19 กิจกรรม และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน กลุ่มเป้าหมายในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้วยรูปแบบ B - SLIM จำนวน 18 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ผลการวิจัยพบว่า 1) ประสิทธิภาพของแต่ละกิจกรรมในค่ายภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้วยรูปแบบ B - SLIM อยู่ในระดับสูงมาก โดยเฉพาะกิจกรรมEnglish Phonics ที่มีค่าเฉลี่ยรวมสูงที่สุด ( = 4.94) ในขณะที่กิจกรรม Ice Breaking มีค่าเฉลี่ยรวมน้อยที่สุด (
= 4.56) และ 2) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้วยรูปแบบ B - SLIM มีความพึงพอใจระดับมากที่สุดทุกกิจกรรม (
= 4.71) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อกิจกรรม English Songs มากที่สุด (
= 4.87) นักเรียนรู้สึกสนุกสนาน มีการฝึกการออกเสียงและเปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการสื่อสารมากขึ้น ดังนั้น การนำกิจกรรมที่หลากหลายผ่านรูปแบบ B - SLIM มาใช้ในการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสามารถส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทัศนคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษ เกิดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ นำไปสู่การพัฒนาการสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการเริ่มต้นกิจกรรมด้วยคำศัพท์ที่ง่ายไปสู่คำศัพท์ที่ยากตามลำดับ สามารถลดทัศนคติเชิงลบของนักเรียนที่มีต่อภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กนกวรรณ กุลสุทธิ์ และคณะ. (2557). การศึกษาการใช้ภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาผ่านกระบวนการค่ายภาษาอังกฤษ. ใน รายงายการวิจัย. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: คุรุสภา ลาดพร้าว.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2557). แนวปฏิบัติตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง นโยบายการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ. เรียกใช้เมื่อ 12 ตุลาคม 2566 จาก https://eqa.snru.ac.th /th/guideline-cefr
ชยาพล ชมชัยยา และคณะ. (2565). การพัฒนาการสื่อสารภาษาอังกฤษโดยใช้การเรียนรู้ด้วยตนเอง. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 14(1), 347-361.
บริติชเคานซิล. (2566). การเรียนภาษาอังกฤษรูปแบบใหม่ที่ช่วยให้เด็กไทยเก่งภาษา. เรียกใช้เมื่อ 10 ตุลาคม 2566 จาก http://www.britishcouncil.or.th
ปิยะภรณ์ พิชิตชัย และคณะ. (2565). การพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้เทคนิค B - SLIM Model สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์, 17(3), 109-117.
มณเฑียร ชัยประเสริฐ. (2559). ผลการจัดค่ายภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้วยรูปแบบ B - SLIM สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
รุ่งทิวา อุ่นเจริญ และคณะ. (2557). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบ TPR และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ B - SLIM. วารสารมหาวิทยาลัยนครพน, 4(3), 85-9.
ศิริยา คนิวรานนท์. (2541). ค่ายภาษาอังกฤษ: กิจกรรมเพื่อพัฒนาความสามารถ ในการใช้ภาษา เพื่อการสื่อสารและสร้างเสริมเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียน. ใน สารนิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร.