การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่องการประดิษฐ์ท่ารำประกอบเพลงมาร์ชโรงเรียนเวียงสระ ด้วยท่ารำมโนราห์โดยการใช้ทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเวียงสระ

Main Article Content

สุชญา เทือกสุบรรณ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชานาฏศิลป์ของนักเรียนในการเรียนรู้เรื่องการประดิษฐ์ท่ารำประกอบเพลงมาร์ชโรงเรียนด้วยท่ารำมโนราห์ ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม 2) เปรียบเทียบทักษะการปฏิบัติการรำของนักเรียนในการเรียนรู้เรื่องการประดิษฐ์ท่ารำประกอบเพลงมาร์ชโรงเรียนด้วยท่ารำมโนราห์ ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม และ 3) การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่องการประดิษฐ์ท่ารำประกอบเพลงมาร์ชโรงเรียนด้วยท่ารำมโนราห์โดยการใช้ทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเวียงสระ เป็นวิจัยเชิงปริมาณ ใช้เครื่องมือเป็นแบบสอบถาม เลือกสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ได้แก่ ม. 3/9 และ 3/10 เรียนนาฏศิลป์ ภาคเรียนที่ 2 ปี 2565 จำนวน 87 คน โดยวิเคราะห์ด้วยสถิติค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test แบบ Independent และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชานาฏศิลป์ของนักเรียน มีคะแนนจากการทำแบบทดสอบหลังเรียนของกลุ่มทดลองมีค่า (𝑥̅ = 25.37, S.D.= 1.90) และกลุ่มควบคุมมีค่า (𝑥̅ = 20.44, S.D.= 2.68) และการประเมินทักษะปฏิบัติมีค่าสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 2) เปรียบเทียบทักษะการปฏิบัติการรำของนักเรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมด้วยสถิติทดสอบ t = 10.219 มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ3) การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD มีองค์ประกอบ 6 ด้าน ได้แก่ ด้านหลักการแนวคิดทฤษฎี ด้านหลักการจัดการเรียนรู้ ด้านกระบวนการเรียนรู้ ด้านสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ ด้านการวัดประเมินผล และด้านแบ่งปันความสำเร็จ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เทือกสุบรรณ ส. . (2023). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่องการประดิษฐ์ท่ารำประกอบเพลงมาร์ชโรงเรียนเวียงสระ ด้วยท่ารำมโนราห์โดยการใช้ทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเวียงสระ. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 10(7), 14–25. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/270575
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

จำเนียร หาญชัยภูมิ. (2554). การร้อยลูกปัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดพัฒนาทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซัน. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี.

จุฑารัตน์ ดวงเทียน. (2558). การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซันร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD เรื่องการประดิษฐ์ท่ารำประกอบเพลงค่านิยม 12 ประการสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิจัยและพัฒนาหลักสูตร. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.

ทิศนา แขมมณี. (2559). ศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 20). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นวลจิตต์ เชาวกีรติพงศ์. (2558). การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานปฏิรูปการศึกษา.

นิสา เมลานนท์. (2555). พัฒนานวัตกรรมการสอนวิชานาศิลป์ เรื่อง นาฏลีลานาฏยศัพท์ โดย ใช้วิธีสอนปฏิบัตินาฏศิลป์ตามแนวคิดการพัฒนาทักษะปฏิบัติของซิมพ์ซัน (Symson). ฉะเชิงเทรา: คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันราชภัฏราชนครินทร์.

บุญชม ศรีสะอาด. (2556). วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย เล่ม 2. กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาการพิมพ์.

ประเมษฐ์ บุณยะชัย. (2546). จารีตประเพณี การถ่ายทอดท่ารำหน้าพาทย์เพลงองค์พระพิราพ. วารสารศิลปากร, 1(1), 6-36.

โรงเรียนเวียงสระ. (2565). ข้อมูลนักเรียนโรงเรียนเวียงสระ. สุราษฎร์ธานี: ฝ่ายวิชาการ โรงเรียนเวียงสระ.

วิมลศรี อุปรมัย. (2555). นาฏกรรมและการละคร. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อิศรา รุ่งอภิญญา. (2558). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องชนิดของประโยค ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 2 ที่จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ร่วมกับแบบฝึก. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาไทย. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

Cronbach, L. J. (1990). Essentials of psychological testing. (5th ed.). New York: Harper Collins.

Krejcie, R.V., & Morgan, D.W. (1970). “Determining sampling size for research activities”. Educational and Psychological Measurement, 30(1), 607-610.

Likert, R. (1967). “The Method of Constructing and Attitude Scale”. In Reading in Fishbeic, M (Ed.), Attitude Theory and Measurement. New York: Wiley & Son.