ความรู้ความเข้าใจและบทบาทของชุมชนในการบริหารงาน ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติน้ำพอง
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความรู้ความเข้าใจของชุมชนรอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติน้ำพอง 2. ศึกษาบทบาทของชุมชนในการบริหารงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติโดยชุมชนรอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติน้ำพอง 3. ทราบผลของการบริหารงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติน้ำพองผ่านเครือข่ายชุมชน เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนที่มีที่อยู่อาศัยอยู่บนเส้นทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น จำนวน 202 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยาย ผลการวิจัยพบว่า 1. ความรู้ความเข้าใจของชุมชนรอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น แสดงผลการวิจัยเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1) ข้อมูลทั่วไปส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 41 - 50 ปี มีระดับการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประกอบอาชีพรับจ้าง มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 15,000 บาท ส่วนใหญ่มีระยะเวลาในการอาศัยอยู่ในชุมชนมากกว่า 15 ปี และไม่ได้เป็นสมาชิกอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ 2) ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติน้ำพอง ในภาพรวม มีความรู้ความเข้าใจอยู่ในระดับมาก 2. บทบาทของชุมชนในการบริหารงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติโดยชุมชนรอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติน้ำพอง อยู่ในระดับปานกลาง และ 3. ผลของการบริหารงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติน้ำพองผ่านเครือข่ายชุมชน การที่เครือข่ายชุมชนเข้ามามีบทบาทในการบริหารงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติจะมีผลต่อการบริหารงานในระดับมากที่สุด สามารถลดความขัดแย้งระหว่างคนกับป่าได้มีผลต่อการบริหาร การดำเนินงานร่วมกันระหว่างชุมชนและอุทยานแห่งชาติจะสามารถช่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ควบคู่ไปกับการดำรงชีวิตตามวิถีชุมชนได้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กรมป่าไม้. (2564). โครงการจัดทำข้อมูลสภาพพื้นที่ป่าไม้ ปี พ.ศ. 2564. เรียกใช้เมื่อ 5 มีนาคม 2565 จาก https://forestinfo.forest.go.th/Content/file/ForestArea/Forest Area_2564.pdf
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช. (2564). คู่มืออาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.อส.). เรียกใช้เมื่อ 5 มีนาคม 2565 จาก https://www.dnp.go.th/ info_protect/data%20catalog/Document Download/Document/DataSet%2062_08%20%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%20%E0%B8%AD%E0%B8%AA.%E0%B8%AD%E0%B8%AA.pdf
กิตติพล แต่งผิวและ จินตนา อมรสงวนสิน. (2558). ปัจจัยที่มีผลต่อจิตอาสาของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของชุมชนตำบลมะขาม อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี. วารสารวิจัยรำไพพรรณี, 9(3), 5 – 15.
ณัฐนนท์ จิรกิจนิมิต. (2565). บทบาทพระสงฆ์กับการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า. วารสารวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง, 11(1), 248-265.
ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2555). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS. (พิมพ์ครั้งที่ 11). กรุงเทพมหานคร: บิสซิเนสอาร์แอนด์ดี.
ธิดาพร ลครพล และปานปั้น รองหานาม. (2565). ความร่วมมือของอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่นร่วมกับหน่วยงานภาคีในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน. Journal of Roi Kaensarn Academi, 7(9), 141 – 155.
พยุงพร ศรีจันทวงษ์ และสาคร พรหมโคตร. (2562). จิตอาสากับบทบาทการอนุรักษ์และการจดการป่าชุมชน กรณีศึกษาภูเตาโปง ป่าชุมชนบ้านบุ่งกุ่ม ต.นาหอ อ.ด่านซ้าย จ.เลย. วารสารมณีเชษฐาราม วัดจอมมณี, 2(2) ,65 – 76.
พรลิขิต แสงพระจันทร์ และคณะ. (2564). บทบาทของบุคลากรในการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในวิทยาลัยครูปากเซ แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์, 6(1), 83 – 94.
ลำเงิน สุริยวงศ์ และคณะ. (2565). บทบาทของพระสงฆ์กับการจัดการสิ่งแวดล้อม ของชุมชนเมืองขอนแก่น. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 22(3), 221 – 233.
อภิชา พรเจริญกิจกุล. (2558). บทบาทผู้นำท้องถิ่นด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ของอำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม. วารสารรัฐศาสตร์ปริทรรศน์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2(1), 67-79.
อรรถกร จัตุกูล. (2561). บทบาทของชุมชนในท้องถิ่นต่อการพัฒนาตลาดการท่องเที่ยว จังหวัดบุรีรัมย์กรณีศึกษาชุมชนวนอุทยานเขากระโดง. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, 10(1), 167-182.
Yamane, Taro. (1976). Statistics: An introductory analysis (2nd ed.). New York: Harper and Row.