ถอดบทเรียนการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในระดับพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะที่ห่วงใยสุขภาพ
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ถอดบทเรียนการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในระดับพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะที่ห่วงใยสุขภาพ โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพแบบพหุกรณีศึกษา กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักจำนวน 40 คน ประกอบด้วย ผู้บริหาร ปลัด สมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 10 คน เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7 คน พี่เลี้ยงโครงการ 6 คน เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด อำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 7 คน และผู้รับผิดชอบงานกิจกรรมทางกาย 10 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการทบทวนเอกสารที่เกี่ยวข้อง การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสนทนากลุ่ม ระหว่างมีนาคม-กรกฎาคม 2565 ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลด้วยการตรวจสอบสามเสา และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า สภาพบริบทพื้นที่ พบ 4 ลักษณะ คือ สภาพสังคมเมือง เกษตรกรรม วิถีมุสลิม และวิถีประมงพื้นบ้าน และมีกลไกการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายระดับพื้นที่ 3 ด้านหลัก คือ 1) การพัฒนาผู้นำกิจกรรมทางกายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ทั้งผู้นำทางการและผู้นำตามธรรมชาติ 2) การพัฒนากลไกการดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ และการจัดให้มีพื้นที่สาธารณะเพื่อทำกิจกรรมทางกายในชุมชน โดยพบกิจกรรมทางกายตามวิถีชีวิตที่ผูกติดกับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น อาทิ การฟ้อนรำผ่านท่าทางภาษากาย การรำวงย้อนยุค บาสโลบ การเล่นว่าว การออกกำลังกายด้วยอุปกรณ์พื้นบ้าน เช่น ผ้าขาวม้า กระบอกทราย รวมถึงการเชื่อมโยงกิจกรรมทางกายไปสู่การท่องเที่ยวเชิงเกษตร วัฒนธรรม ธรรมชาติ และ 3) การพัฒนาระบบสนับสนุนที่เอื้อต่อกิจกรรมทางกายด้วยโปรแกรมการพัฒนาและติดตามประเมินผลโครงการ และการมีพี่เลี้ยงระดับพื้นที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยบริการสุขภาพ สถาบันการศึกษา และกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
ฐิติกร โตโพธิ์ไทย และคณะ. (2562). บทเรียนจากการพัฒนาแผนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย พ.ศ. 2561-2573. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 13(4), 442-456.
ตัวแทนผู้รับผิดชอบงานกิจกรรมทางกายท่านที่ 1. (8 เมษายน. 2565). การขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมด้านกิจกรรมทางกายในพื้นที่. (ญัตติพงศ์ แก้วทอง, ผู้สัมภาษณ์)
ตัวแทนผู้รับผิดชอบงานกิจกรรมทางกายท่านที่ 2. (7 เมษายน. 2565). การขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมด้านกิจกรรมทางกายในพื้นที่. (ญัตติพงศ์ แก้วทอง, ผู้สัมภาษณ์)
ตัวแทนผู้รับผิดชอบงานกิจกรรมทางกายท่านที่ 3. (25 มีนาคม. 2565). การขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมด้านกิจกรรมทางกายในพื้นที่. (ญัตติพงศ์ แก้วทอง, ผู้สัมภาษณ์)
ตัวแทนพี่เลี้ยงโครงการ/กองทุนท่านที่ 1. (5 กรกฎาคม. 2565). กลไกการทำงาน และการขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมด้านกิจกรรมทางกายในพื้นที่. (ญัตติพงศ์ แก้วทอง, ผู้สัมภาษณ์)
ตัวแทนพี่เลี้ยงโครงการ/กองทุนท่านที่ 2. (25 มีนาคม. 2565). กลไกการทำงาน และการขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมด้านกิจกรรมทางกายในพื้นที่. (ญัตติพงศ์ แก้วทอง, ผู้สัมภาษณ์)
ตัวแทนพี่เลี้ยงโครงการ/กองทุนท่านที่ 3. (7 เมษายน. 2565). กลไกการทำงาน และการขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมด้านกิจกรรมทางกายในพื้นที่. (ญัตติพงศ์ แก้วทอง, ผู้สัมภาษณ์)
ตัวแทนสำนักงานสาธารณสุขท่านที่ 1. (20 พฤษภาคม. 2565). สถานการณ์พื้นที่ กลไกการทำงานด้านกิจกรรมทางกายในพื้นที่. (ญัตติพงศ์ แก้วทอง, ผู้สัมภาษณ์)
ตัวแทนสำนักงานสาธารณสุขท่านที่ 2. (20 พฤษภาคม. 2565). การพัฒนาและขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมด้านกิจกรรมทางกายในพื้นที่. (ญัตติพงศ์ แก้วทอง, ผู้สัมภาษณ์)
ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่านที่ 1. (7 เมษายน. 2565). การขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมด้านกิจกรรมทางกายในพื้นที่. (ญัตติพงศ์ แก้วทอง, ผู้สัมภาษณ์)
ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่านที่ 2. (24 มีนาคม. 2565). การขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมด้านกิจกรรมทางกายในพื้นที่. (ญัตติพงศ์ แก้วทอง, ผู้สัมภาษณ์)
ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่านที่ 4. (26 พฤษภาคม. 2565). การขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมด้านกิจกรรมทางกายในพื้นที่. (ญัตติพงศ์ แก้วทอง, ผู้สัมภาษณ์)
บัณฑิต ศรไพศาล และคณะ . (2563). โมเดลพลังสี่ภาคส่วนสู่การยกระดับการทำงานป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 29(4), 747-764.
ปิยะธิดา นาคะเกษียร. (2558). กฎบัตรออตตาวากับบทบาทการสร้างเสริมสุขภาพของพยาบาลวิชาชีพ. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, 33(4), 6-14.
อัจฉรา ปุราคม และคณะ. (2563). นโยบายกิจกรรมทางกายในผู้สูงอายุ: การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 14(2), 208-224.
Ball, K. et al. (2015). Addressing the social determinants of inequities in physical activity and sedentary behaviours. Health Promotion International, 30 (2), 8-19.
Linzalone, N. et al. (2014). Health Impact Assessment Practice and Potential for Integration within Environmental Impact and Strategic Environmental Assessments in Italy. International Journal of Environmental Research and Public Health, 11(12), 12683-12699.
Reimers, C. D. et al. (2012). Does physical activity increase life expectancy? A review of the literature. Journal of Aging Research, 2012(1), 1-9.
Ren, Y. et al. (2021). Nutrition Transition with Accelerating Urbanization? Empirical Evidence from Rural China. Nutrients, 13(3), 1-18.
Stevens, M. et al. (2022). Equipping Physical Activity Leaders to Facilitate Behaviour Change: An Overview, Call to Action, and Roadmap for Future Research. Sports Medicine - Open, 8(1), 1-9.
Stolz, D. et al. (2014). Predictors of success for smoking cessation at the workplace: A longitudinal study. Respiration; International Review of Thoracic Diseases, 87(1), 18-25.
Topothai, T. et al. (2022). The Assessment of Physical Activity Programs Implementation in the Thai Urban-Setting against the Global Action Plan on Physical Activity Strategic Actions. Journal of Health Systems Research, 16(1), 69-84.
Wang et al. (2022). Association between socio-economic factors and the risk of overweight and obesity among Chinese adults: A retrospective cross-sectional study from the China Health and Nutrition Survey. Global Health Research and Policy, 7(1), 1-10.
World Health Organization. (2018). Global action plan on physical activity 2018-2030: More active people for a healthier world. Retrieved August 3, 2022, from https://apps.who.int/iris/handle/10665/272722
World Health Organization. (2021). Fair Play: Building a strong physical activity system for more active people. Retrieved August 3, 2022, from https://www.who.int/publications-detail-redirect/WHO-HEP-HPR-RUN-2021.1