บทบาทของพยาบาลในการกระตุ้นพัฒนาการด้านภาษาล่าช้าของเด็กปฐมวัยในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด–19
Main Article Content
บทคัดย่อ
พัฒนาการในช่วงเด็กปฐมวัยมีความสำคัญ เนื่องจากสมองมีการเจริญเติบโตสูงสุด มีการสร้างวงจรประสาทและจุดเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทมากที่สุด พร้อมเปิดรับข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว พัฒนาการด้านภาษาเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเด็กวัยนี้ และมีความสัมพันธ์กับพัฒนาการทางสติปัญญา ส่งผลต่อกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ หากได้รับการช่วยเหลือช้าไม่ทันช่วงเวลาการเรียนรู้ที่สำคัญ อาจทำให้เด็กไม่สามารถเรียนรู้และใช้ชีวิตได้เหมือนเด็กทั่วไป แต่ถ้าเด็กได้รับการบำบัดเมื่ออายุยังน้อยอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จะช่วยให้เด็กมีความก้าวหน้าของพัฒนาการด้านภาษาดีขึ้น โดยพ่อแม่หรือผู้ดูแลเด็กที่มีพัฒนาการด้านภาษาล่าช้า มีส่วนร่วมในการกระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการเด็ก และนำเด็กไปรับบริการที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง แต่ในสถานการณ์ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 พ่อแม่หรือผู้ดูแลเด็กไม่สามารถนำเด็กมารับบริการที่โรงพยาบาลได้ จึงเป็นบทบาทที่ท้าทายสำหรับพยาบาลประจำคลินิกเด็ก ในการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้สอดคล้องกับบริบทและมีความต่อเนื่อง โดย 1) การให้ความรู้พ่อแม่หรือผู้ดูแลเด็กในการใช้คู่มือประเมินพัฒนาการด้านภาษา 2) การกระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาของเด็ก 3) การใช้เทคโนโลยีสื่อดิจิตอลเพื่อการสื่อสาร ในการกระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาของเด็ก ให้มีความต่อเนื่องที่บ้าน และ 4) การติดตามประเมินผลการกระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาของเด็ก โดยการมีส่วนร่วมของบุคคลในครอบครัว สร้างโอกาสให้เด็กมีการสื่อสารโดยใช้ภาษาพูดและสนองความต้องการของเด็กอย่างเหมาะสม นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กได้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข. (2561). คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย. นนทบุรี: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
จิราภรณ์ แสงพารา. (2561). ผลของโปรแกรมการส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาของเด็ก อายุ 2-3 ปี :การศึกษาเบื้องต้น. ใน วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลเด็ก. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ชรินทร์พร มะชะรา และคณะ. (2564). ความรู้และพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาของผู้ดูแลและพัฒนาการด้านภาษาของเด็กอายุ 2-5 ปี ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เขตเทศบาลแห่งหนึ่ง จังหวัดอุดรธานี. วารสารศูนย์อนามัยที่, 9, 15 (38), 574-587.
เดือนฉาย แสงรัตนายนต์. (2559). ประสิทธิผลของโปรแกรมฝึกพูดเด็กพูดช้า โดยใช้คู่มือฝึกพูดสำหรับผู้ปกครอง. วารสารราชานุกูล, 31 (1), 1-12.
นิตยา คชภักดี และคณะ. (2559). แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาเด็กที่มีภาวะพูดช้า. เรียกใช้เมื่อ 4 กันยายน 2564 จาก http://www.thaipediatrics.org/Media/ media-20161208104845.pdf
พัชราภา กาญจนอุดม. (2562). พัฒนาการภาษาล่าช้าหรือภาวะพูดช้าในเด็ก (Child’s delayed language or speech development). เรียกใช้เมื่อ 10 ตุลาคม 2564 จาก http://kidshealth.org/parent/emotions/behavior/not_talk.html
พิชญ์ยุทธ์ สุนทรถิรพงศ์. (2562). พัฒนาการทางภาษาและการพูด. เรียกใช้เมื่อ 4 กรกฎาคม 2564 จาก http://rajanukul.go.th/new/_admin/download/20-5923-1482492733.pdf
ศิราณี อิ่มน้ำขาว และจีระวรรณ ศรีจันทร์ไชย. (2564). บทบาทของพยาบาลในการเสริมสร้างทักษะ EF (การคิดเชิงบริหารและจัดการชีวิต) ในเด็กปฐมวัย. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8 (1), 229-244.
ศิริลักษณ์ พนมเชิง. (2556). ปัจจัยที่สัมพันธ์ในเด็กที่มีภาวะพูดช้ากว่าวัย (Delayed Speech) แผนกผู้ป่วยนอกและคลินิก Well Baby แผนกส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลบางละมุง. วารสารกุมารเวชศาสตร์, 52 (1), 44-55.
สถาบันราชานุกุล. (2563). เด็กพูดช้า. เรียกใช้เมื่อ 2 กรกฎาคม 2564 จาก https://th.rajanukul.go.th/preview-3649.html
สุธีรา คุปวานิชพงษ์. (2563). การส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาในเด็ก. เรียกใช้เมื่อ 10 ตุลาคม 2564 จาก https://www.synphaet.co.th/
สุนีย์ มงคลศิวกุล. (2557). เด็กปฐมวัยพัฒนาการภาษาล่าช้า (ภาวะพูดช้า). เรียกใช้เมื่อ 4 กรกฎาคม 2564 จาก https://wbsc.dusit.ac.th/login/index.php
Plant, K.M., & Sanders, M.R. (2007). Predictors of care-givers stress in families of preschool-aged children with developmental disabilities. Journal of Intellectual DisabilityResearch, 51(2), 109-124.