การรับรู้ของบุคลากรที่มีต่อประสิทธิผลของเทศบาล ในเขตภาคกลางของประเทศไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการรับรู้ของบุคลากรที่มีต่อประสิทธิผลของเทศบาลในเขตภาคกลางของประเทศไทย และ 2) เปรียบเทียบการรับรู้ของของบุคลากรที่มีต่อมีต่อประสิทธิผลของเทศบาลในเขตภาคกลางของประเทศไทยจำแนกตามเพศ อายุ และระดับการศึกษา โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงสำรวจ กรอบแนวคิดการวิจัยใช้แนวคิดของประสิทธิผลขององค์การ ประชากร คือบุคลากรเทศบาลในเขตภาคกลางของประเทศไทย จำนวน 1,986 คน ใช้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 333 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามเกี่ยวกับการรับรู้ของบุคลากรที่มีต่อประสิทธิผลของเทศบาลในเขตภาคกลางของประเทศไทย เป็นแบบประมาณค่า 5 ระดับ ที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.93 เก็บรวบรวมข้อมูลแบบออนไลน์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัย พบว่า 1) การรับรู้ของบุคลากรเทศบาลที่มีต่อประสิทธิผลของเทศบาลในเขตภาคกลางของประเทศไทยในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( . = 3.51) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าด้านการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ด้านนวัตกรรมองค์การ และด้านการบรรลุเป้าหมายขององค์การ อยู่ในระดับมาก ( . = 3.67, 3.64, 3.54 ตามลำดับ) ส่วนด้านความสามารถในการปรับตัวอยู่ในระดับปานกลาง ( .= 3.18) และ 2) บุคลากรเทศบาลที่มีเพศ และระดับการศึกษาต่างกันมีการรับรู้ต่อประสิทธิผลของเทศบาลในเขตภาคกลางของประเทศไทยในภาพรวมไม่แตกต่างกัน ส่วนบุคลากรเทศบาลที่มีอายุต่างกันมีการรับรู้ต่อประสิทธิผลของเทศบาลในเขตภาคกลางของประเทศไทย ในภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. (2563). ข้อมูลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. เรียกใช้เมื่อ 13 มิถุนายน 2565 จาก http://www.dla.go.th/work/abt/index.jsp
ฉัตรชัย นาถ้ำพลอย. (2562). การบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ในสังคมปัจจุบัน. วารสาร นวัตกรรมการศึกษาและการวิจัย, 3(3), 171-177.
ณัฐวัชร จันทโรธรณ์ และพงษ์ศักดิ์ พัวพรพงษ์. (2563). ประสิทธิผลขององค์การ. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ, 9(2), 1-9.
ธนกรณ์ พูนภิญโญศักดิ์. (2564). ศึกษาเกี่ยวกับคุณภาพการบริหารราชการของเทศบาลเมือง ในจังหวัดปทุมธานี. วารสารวิชาการ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค, 7(1), 196-207.
พระมหาเตชินท์ สิทธาภิภู (ผากา). (2554). ประสิทธิผลการให้บริการของเทศบาลตำบลดงเย็น อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขา รัฐศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย.
ศิริวดี วิวิธ-คุณากร และคณะ. (2563). การปกครองท้องถิ่นไทยในยุคพลิกผันการเปลี่ยนแปลง. วารสารการบริหารการปกครองและนวัตกรรมท้องถิ่น, 4(2), 357-374.
Department of Local Administration. (2016). Organization Structure. Retrieved June 3, 2022, from http://www.dla.go.th/en/s2.jsp
Jones, G. R. (2013). Organizational theory, design, and change (7th ed.). Upper Saddle River, NJ: Pearson.
Lok, P., & Crawford, J. (2000). The application of a diagnostic model and surveys in organizational development. Journal of Managerial Psychology, 15(2), 108-124.
Mala, T. . (2011). Thailand local Government in transitional Period. Valaya Alongkorn Review, 1(2), 29-49.
Pfeffer, J., & Salancik, G. R. (1978). The external control of organizations: A resource dependence perspective. New York: Harper & Row.
Robbins, S. P. (2002). Organizational behavior (10th ed.). Englewood Cliffs, NJ: Prentice Hall.
Robert, M. (1995). Product innovation strategy pure and simple: How winning companies outpace their competitors. New York: McGraw-Hill.
Steers, R. M. (1977). Organizational effectiveness: A behavioral view. Santa Monica, CA: Goodyear.
Taylor, F. W. (2006). The principles of scientific management. New York: Cosimo.
Yamane, T. . (1973). Statistics: An introductory analysis (3rd ed.). New York: Harper & Row.