การจัดการแบบ New Normal ต่อการพัฒนาธุรกิจร้านนวดสปาไทยในจังหวัดนนทบุรี

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความคิดเห็น ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา ตำแหน่งงาน ประสบการณ์ในการทำงาน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน และ 2) ศึกษาความสามารถของผู้ประกอบการต่อการจัดการแบบ New Normal ต่อการพัฒนาธุรกิจร้านนวดสปาไทยในจังหวัดนนทบุรี เป็นการศึกษาเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้ประกอบการธุรกิจร้านนวดสปาไทยที่ได้รับอนุญาตในจังหวัดนนทบุรี จำนวน 69 แห่ง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามผ่านระบบ google form สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า ระดับความคิดเห็นที่ส่งผลต่อการจัดการแบบ New Normal ได้แก่ เพศ และสถานภาพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ การพัฒนาธุรกิจร้านนวดสปาไทยในจังหวัดนนทบุรี ได้แก่ ด้านนวัตกรรมแบบ New Normal ด้านความสามารถในการจัดการแบบ New Normal ด้านการจัดการการแข่งขันเชิงรุก แบบ New Normal ด้านความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และด้านความกล้าเสี่ยงในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งสามารถพยากรณ์ทำนายความสามารถของผู้ประกอบการกับการจัดการแบบ New Normal ต่อการพัฒนาธุรกิจร้านนวดสปาไทยในจังหวัดนนทบุรี ได้ร้อยละ 73.25 ดังนั้นก่อนรับบริการต้องลงทะเบียนเข้ารับบริการ แสดงประวัติการฉีดวัคซีน วัดไข้โดยไม่ให้อุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 ล้างมือในจุดล้างมือที่ร้านนวดสปากำหนดไว้ เปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างเท้า โดยทุกขั้นตอนผู้รับบริการนวดต้องปิดแมสตลอดเวลา และที่สำคัญอีกประการพนักงานร้านนวดเพื่อสุขภาพ ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามมาตรการของภาครัฐ และต้องตรวจ ATK ทุก ๆ 3 วัน