นวัตกรรมการประเมินโครงการกำกับติดตามประเมินโครงการ เพิ่มศักยภาพครูให้มีสมรรถนะของครูยุคใหม่สำหรับการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงประเมินมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการด้านบริบท ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ และผลิตผล กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูโรงเรียนเครือข่ายที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 205 คน สุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการประเมินระดับความคิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลำดับจากมากไปน้อย พบว่า ผลการประเมินบริบท คือ วัตถุประสงค์ของโครงการตรงตามนโยบายของ สสวท. โครงการสอดคล้องกับนโยบายของ สสวท. และหน่วยงานต้นสังกัด/โรงเรียน และอันดับสุดท้ายได้แก่ วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับการพัฒนาผู้เรียน ผลการประเมินปัจจัยนำเข้า ด้านวิทยากร คือ วิทยากรเอาใจใส่ต่อการจัดอบรม มีจำนวนวิทยากรเพียงพอกับความต้องการ และอันดับสุดท้ายได้แก่ วิทยากรมีความรู้ความเข้าใจเนื้อหาที่อบรมเป็นอย่างดี ด้านผู้เข้าอบรม คือ มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ มีความสนใจการอบรมเป็นอย่างดี และอันดับสุดท้ายได้แก่ มีความรู้พื้นฐานใกล้เคียงกัน ด้านสิ่งสนับสนุน คือ มีเอกสารประกอบการอบรมที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้อบรม และมีช่องทางติดต่อสื่อสารออนไลน์เมื่อผู้เข้าอบรมประสบปัญหาในการอบรม ผลการประเมินด้านกระบวนการ คือ กิจกรรมโครงการนำไปใช้ได้จริง ผู้บริหารให้ความสำคัญการส่งเสริมสนับสนุนโครงการ และอันดับสุดท้ายได้แก่ มีการศึกษาสภาพดำเนินงานปัจจุบัน ปัญหา ความต้องการพัฒนาและกำหนดประเด็นที่ต้องการพัฒนา ผลการประเมินด้านผลผลิต คือ ครูปฏิบัติภารกิจหลักในการพัฒนาผู้เรียน ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้และพัฒนาผู้เรียนอย่างมีประสิทธิผล และอันดับสุดท้ายได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนดีขึ้น การดำเนินกิจกรรมตามโครงการทำให้ผู้บริหาร ครู นักเรียน เป็นที่ยอมรับ ภาระงานของครูได้รับการแบ่งเบา
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
ขจรศักดิ์ บัวระพันธ์. (2555). การประเมินทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 (ตอนที่ 1). จุลสารนวัตกรรม, 7(26), 4-9.
ชนะศึก โพธิ์นอก และเกียรติสุดา ศรีสุข. (2561). รูปแบบการประเมินสมรรถนะครูที่ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 24(1), 1-17.
ชูศรี วงศ์รัตนะ. (2564). เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย (ฉบับปรับปรุงเพิ่มเติม). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2559). การศึกษายุค 4.0 เป็นยิ่งกว่าการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ลดาวัลย์ เนื่องคำ. (2547). งานสารบรรณภาคปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สุทธิสารการพิมพ์.
ลำไย เลิศชยันตี. (2549). การพัฒนาแนวทางการดำเนินงานธุรการที่มีคุณภาพของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ในเขตพื้นที่การศึกษานครนายก. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์.
สายใจ สังขพันธ์. (2548). ศึกษาสภาพการบริหารงานธุรการตามความคิดเห็นของบุคลากรในโรงเรียนโสตศึกษา. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร.
สุรศักดิ์ ปาเฮ. (2556). การพัฒนาสมรรถนะครูในศตวรรษที่ 21. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 1-2. เรียกใช้เมื่อ 16 มิถุนายน 2564 จาก http://www.addkutec3.com /wp-content/ uploads/2013/05/การพัฒนาสมรรถนะครูในศตวรรษที่-211.pdf.
เสกสม นิกรสุข. (2545). การบริหารงานธุรการโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานประถมศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษา. สถาบันราชภัฏอุบลราชธานี.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and psychological measurement, 30(3), 607-610.