การบริหารความขัดแย้งในองค์กรโดยใช้กระบวนทัศน์ ทางรัฐประศาสนศาสตร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการบริหารความขัดแย้งองค์กรโดยใช้กระบวนทัศน์ทางรัฐประศาสตร์ โดยในการศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการวิเคราะห์เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความขัดแย้ง และการใช้วิธีการที่สอดคล้องกับกระบวนทัศน์ทางรัฐประศาสนศาสตร์ โดยที่ในบทความชิ้นนี้ใช้แนวการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่มาเป็นกรอบในการวิเคราะห์ เพราะการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่นั้นเป็นการปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการภาครัฐโดยนำหลักการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบราชการและการแสวงหาประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศ โดยการนำเอาแนวทางหรือวิธีการบริหารงานของภาคเอกชนมาปรับใช้กับการบริหารงานภาครัฐ เช่น การบริหารงานแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ การบริหารงานแบบมืออาชีพ การคำนึงถึงหลักความคุ้มค่า ข้อค้นพบจากงานวิจัยได้มาจากงานวิจัย บทความวิจัย บทความวิชาการ และหนังสือที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนำมาจัดหมวดหมู่ตามประเด็นและนำเสนอข้อมูลด้วยเชิงพรรณนา และสังเคราะห์องค์ประกอบที่สำคัญ ผลการศึกษาพบว่า 1) การบริหารความขัดแย้งแบบชนะทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นการบริหารที่ทุกฝ่ายสามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ 2) การบริหารความขัดแย้งโดยการใช้โครงสร้างองค์กร คือการกำหนดระเบียบ ข้อบังคับปฏิบัติ ในการเลือกสรรบุคลากร 3) การบริหารความขัดแย้งด้วยการใช้การสื่อสารอย่างสันติ เป็นการใช้ทักษะสุนทรีสนทนาเพื่อไกล่เกลี่ย 4) การบริหารความขัดแย้งโดยใช้อำนาจ เป็นการใช้อำนาจกรณีที่ความขัดแย้งนั้นไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ 5) การบริหารความขัดแย้งโดยใช้การหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ไม่ใช่การหลบหลีกปัญหา แต่เป็นการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นลักษณะเผชิญหน้า
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ชณภา ปุญณนันท์ . (2563). ความขัดแย้ง: แนวทางการแก้ไขผ่านปรัชญากุญแจเก้าดอกของสถาบันพลังจิต ธรรมะ จักรวาล. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, 11(2), 190-199.
ทศพร ศิริสัมพันธ์. (2551). “ทิศทางและแนวโน้มของรัฐประศาสนศาสตร์” ใน ประมวลสาระชุดวิชาแนวคิด ทฤษฎี และหลักการรัฐประศาสนศาสตร์ หน่วยที่ 15. น. 439-476. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ปรารถนา หลีกภัย. (2564). การบริหารความขัดแย้งการบริหารความขัดแย้งจากการทำงานของข้าราชการครูในจังหวัดตรัง. วารสารสถาบันพระปกเกล้า, 19 (1), 93-113.
ปัณณพงศ์ วงศ์ราศี. (2015). ความขัดแย้งและการจัดการความขัดแย้งบริบทในสังคมไทย. วารสารสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยทักษิณ, (4), 59-81.
ศิริวรรณ มนอัตระผดุง. (2559). การบริหารความขัดแย้งในองค์การอย่างสร้างสรรค์. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 6(2), 193-208.
สัญญา เคณาภูมิ. (2562). กระบวนทัศน์แห่งอนาคตของรัฐประศาสนศาสตร์. วารสารนวัตกรรมการจัดการภาครัฐและภาคเอกชน, 7(2), 39-66.
สาริศา เจนเขว้า. (2563). ทางเลือกการบริหารความขัดแย้งการบริหารความขัดแย้งในองค์การ. วารสารการบริหารนิติบุคคล, 6(2), 229-241.
สิญาธร นาคพิน, วิลาวัณย์ สมบูรณ. (2562). การบริหารความขัดแย้งในองค์กรภาครัฐ ยุคประเทศไทย 4.0. วารสารราชภัฏสุราษฎร์ธานี, 6(2), 21-46.
อาชิรญาณ์ เขียวชอุ่มและคณะ. (2557). การบริหารความขัดแย้งการบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม, 4(3), 124-131.
อุไร ส้มเกลี้ยง, อรุษ คงรุ่งโชค, สิญาธร นาคพิน. (2562). การบริหารความขัดแย้งของพนักงานในองค์กรภาครัฐ. วารสารหาดใหญ่วิชาการ, 18(1), 163-176.
Davor, D. (2008). Conflict Management in Organization. Interdisciplinary Management Research, (4), 505-515.
Hood, Christopher. (1991). Manage for all seasons. Public Administration, Vol.69, 4-5.
Khakhai, K. (2012). A study of the management compatency of a chief executive officer at a bureaucracy orgenization’s and a private enterprise. Bangkok: Suan Sunandha Rajabhat University.
Kuhn, T. S. (2012). The structure of scientific revolutions. University of Chicago press.
March, J. G. & Simon, H. A. (1998). Organization. New York: John Wiley and sons, Inc.
McShane, S. L., & Von Glinow, M. A. (2015). Organizational Behavior: Emerging Realities for the Workplace Revolution. Boston: McGraw-Hill/Irwin.
Nicholas, H. (2010). Public Administration and Public Affair 12th ed. New Jersey: Prentice Hall.
Robbins, S.P. and Judge, T.A. (2013). Organisational Behavior15th. Pearson: Boston.
Thomas, K. (1976). Conflict and Management in Handbook of Industrial and Organizational Psychology. Chicago MA: Rand McNally.